ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190
และศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้พิพากษาให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช รวมทั้งยังมีคดีต่างๆ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่ามีความเคลื่อน ไหวที่น่าสนใจตลอดทั้งวัน โดยในช่วงบ่าย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลา โหม ได้เรียกพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล แม้จะระบุว่าเป็นการหารือเรื่องสถานการณ์ภาคใต้ แต่คาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันเดียวกัน สำนักงานเลขานุการรมว.กลาโหม ได้แจ้งมายังกองทัพอากาศว่า นายสมัคร ต้องการมาตรวจเยี่ยมกองทัพอากาศ ในวันที่ 10 ก.ค. เวลา 13.00 น.
ทั้งที่ยังไม่มีกำหนดการออกมา อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลพยายามสนับ สนุนทุกเหล่าทัพเกี่ยวกับงบประมาณพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์มากขึ้นในงบประมาณปี 2552 ท่ามกลางที่รัฐบาลเจอภาวะกดดันหลายด้าน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปฏิวัติว่า พูดทุกครั้ง และยืนยันว่าการเมืองจะต้องแก้ไขด้วยการเมือง
ขณะนี้ดำเนินการไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว การปฏิวัติไม่น่าจะส่งผลดีกับประเทศชาติโดยรวม สำหรับทหารขอให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการปฏิวัติ ไม่ทราบว่าใครจะปฏิวัติ เมื่อถามว่ามีขบวนการสร้างข่าวให้เกิดความหวาดระแวงใน กองทัพ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ขออย่าให้ประชาชนเกิดความวิตก