ก่อนหน้านี้ เวลา 11.00 น. นายสมัครในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้สั่งการผ่านเจ้าหน้าที่พรรค โทรศัพท์เรียกประชุมด่วนกรรมการบริหาร พปช.
เพื่อประเมินสถานการณ์พร้อมกำหนดทิศทางการเมืองของ พปช.และรัฐบาล หลังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินลงโทษนายยงยุทธ รวมถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ถึงแถลงการณ์ร่วมของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กรณีปราสาทพระวิหารขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งมีกรรมการบริหาร พปช.เข้าร่วมคึกคัก รวมทั้งนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีในบ่ายวันเดียวกัน ยกเว้นนายยงยุทธ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการและนายนพดล ซึ่งติดภารกิจต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่ามีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยส่วนหนึ่ง อาทิ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ เข้ามายังพรรคในช่วงมีการประชุมด้วย
แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายสมัครได้กล่าวในที่ประชุมพรรคว่า '' ตอนนี้อยากให้ ส.ส.ทุกคนที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ศาลระมัดระวังคำพูดด้วย เพราะอาจจะเข้าข่ายหมิ่นศาลได้ เพราะเราเป็นฝ่ายบริหาร ไม่เหมือนพวก 4-5 คนนั้นหรอก แล้วตอนนี้ก็ไม่ต้องไปห่วงใยอะไร ขอให้ทุกคนทำงานไปไม่ต้องไปกังวลอะไร''
และว่า ระหว่างการหารือ พ.ต.ท.กานท์ได้เสนอให้นายสมัครยุบสภา
แต่นายสมัครได้กล่าวว่า '' จะไม่มีการยุบสภาช่วงนี้อย่างแน่นอน ถ้ายุบสภาก็เหมือนว่าพวกเรายอมแพ้ วันนี้เรายังไม่หมดหนทาง และตอนนี้พรรคการเมืองอื่นเขาไม่อยากยุบสภาหรอก แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์เองก็ไม่อยากให้มีการยุบ ถ้าจะยุบเมื่อไหร่รับรองว่าผมจะมาหารือกับพรรคและบอกก่อน ''
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายสมัครยังได้กล่าวถึงแนวคิดของ ส.ส.ที่จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดอำนาจตุลาการที่เข้ามาก้าวก่ายงานบริหารว่า
''ตอนนี้เราไปพูดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ เราไปพูดกันตอนนี้ เหมือนตื่นเต้นว่าจะโดนยุบพรรค สังคมจะรับไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นว่าพอเราถูกใบแดง พอจะถูกยุบพรรคก็มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พูดอะไรไปตอนนี้ไม่มีประโยชน์ ''