พันธมิตรฯ แห่บุก สตช. ปิดถนนพระราม 1 พร้อมออกประกาศ 10 ข้อ เรียกร้องตำรวจเลิกเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณ ประณามโยกย้ายเอื้อพวกพ้องกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม ทวงถามคดีความค้างเก่า จี้คดี "จักรภพ" หมิ่นสถาบัน
วันนี้ (7 ก.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ได้เคลื่อนขบวนตามแผนดาวกระจายไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยกลุ่มผู้ชุมนุมนับพันคนรวมตัวเต็มถนนพระราม 1 จนต้องมีการปิดจราจร ขณะที่มีแกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายพิภพ ธงไชย เดินทางมาพร้อมขึ้นเวทีปราศรัยเคลื่อนที่โดยกล่าวโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยเฉพาะการทวงถามถึงคดีม็อบ นปช.บุกบ้านสี่เสาร์เทเวศน์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รวมไปถึงทวงถามคดีหมิ่นสถาบันของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พันธมิตรฯ บุก สตช.
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.10 น.
นายสนธิ ได้อ่านประกาศของกลุ่มพันธมิตรฯ เรื่อง "เรียกร้องตำรวจหยุดเป็นทาสรับใชระบอบทักษิณ" โดยมีเนื้อหาระบุโจมตีตำรวจที่มีพฤติกรรมรับใช้นักการเมืองในระบอบทักษิณอย่างไร้เกียรติและศักดิ์ศรี
พร้อมยกตัวอย่างพฤติกรรมดังกล่าว 10 ข้อ ประกอบด้วย
1.การโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรมเพื่อพวกพ้องตนเองและกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม
2.ปกป้องพวกพ้องไม่ให้ได้รับผิดในการฆ่าตัดตอนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในคดียาเสพติด ปกปิดและปกป้องเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สั่งการอุ้มฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น คดีการอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร
3. ขัดขวางเสรีภาพของประชาชนในหลายจังหวัดไม่ให้เดินทางใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานคร
4.กระทำการก่อกวน ยั่วยุการชุมนุมของพันธมิตรฯ ด้วยการใช้รถเครื่องเสียงเปิดเสียงดังรบกวน ขัดขวาง และยั่วยุการปราศรัยบนเวที
5.มีพฤติกรรมปิดกั้นรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ข่มขู่คุกคามผู้ประกอบการทีวีเคเบิลท้องถิ่น
6.ทำร้ายร่างกายประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่สนับสนุนพันธมิตรฯ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง โดยไม่มีใครออกมารับผิดชอบ
7.ให้สัมภาษณ์บิดเบือนข้อกฎหมาย ดูถูกหลอกลวงประชาชนเพื่อมุ่งหวังที่จะรื้อและทำลายทรัพย์สินของการชุมนุม
8.เลือกปฏิบัติในการดำเนินคดีความ ถ่วงเวลาและบิดเบือนสอบสวนคดีความของคนในระบอบทักษิณให้เป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งคดีกุหลาบแก้ว คดีทุจริตลำไย ฯลฯ ขณะที่สมคบกับฝ่ายการเมืองใส่ความและเร่งรัดคดีความฝ่ายที่ตรวจสอบรัฐบาลโดยปราศจากข้อเท็จจริง เช่นความพยายามออกหมายจับ นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
9. เฉื่อยชาในการดำเนินคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ
10. เพิกเฉยต่อคดีความคนที่เกี่ยวข้องกับคนในอำนาจรัฐ เช่นคดีลูกชาย 2 คน ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ตลอดจนไม่ติดตามผู้กระทำความผิดในคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือ ดาบยิ้ม มาลงโทษจนถึงที่สุด
นอกจากนี้ในประกาศดังกล่าวยังระบุประณามว่าการกระทำดังกล่าว
คือการทรยศต่อประชาชน ทรยศต่อชาติ และทรยศต่อการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะต้องรับผิดและถูกลงโทษทางกฎหมายทางสังคม และทางการเมืองในอนาคต พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการตำรวจผู้ซื่อสัตย์สุจริต ยืนหยัดในหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่เป็นธรรม