คกก.มรดกโลก21ปท.รับเอกสารศาลปกครองไทย ห้ามใช้แถลงการณ์ร่วมไทย-เขมร “ปองพล”ลุ้นมรดกโลกร่วม 2 ประเทศ อึ้งรัฐบาลเขมรพาผู้แทนเกาหลี-โมร็อกโก-อเมริกาเที่ยวพระวิหาร ชงข้อมูลฝ่ายเดียว ส่วนอุทยานฯอยุธยารอดพ้นถอดมรดกโลก
(5ก.ค.) นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย ได้รายงานสายตรงจากเมืองคิวเบก ประเทศแคนาดาว่า เวลา 11.00 น. ตามเวลาแคนาดา ตรงเวลาเมืองไทย 23.00 น. ของคืนวันที่ 4 ก.ค.ตนได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่32 (32nd Session of the World Heritage Committee) วันที่ 2-10 ก.ค.2551 ในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญามรดกโลก
โดยคณะกรรมการมรดกโลกทั้ง 21 ประเทศและยูเนสโก ได้รับเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศ(กต.)ของไทย ซึ่งลงนามโดยนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ แจ้งให้ทราบถึงคำสั่งศาลปกครองที่ให้คุ้มครองชั่วคราว ซึ่งห้ามไม่ให้ใช้แถลงการณ์ร่วมประกอบการพิจาร ณาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา นอกจากนี้คณะกรรมการหลายคนได้เข้าใจและแสดงความเป็นห่วงในสถานการณ์ และพยายามหาข้อยุติที่จะไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของไทยกับกัมพูชา
"ผมได้มีการพบปะนอกรอบกับคณะผู้แทนประเทศต่างๆ เช่น เกาหลี โมร็อกโก และสหรัฐอเมริกา ซึ่งคณะผู้แทนจากประเทศเหล่านี้ได้รับการเชิญจากรัฐบาลกัมพูชา ให้เดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทพระวิหาร จึงทำให้ได้รับข้อมูลจากมุมมองของฝ่ายกัมพูชาฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยได้ชี้แจงให้คณะผู้แทนเหล่านี้ได้เข้าใจ และให้ความสำคัญในเชิงภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสมควรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกันระหว่างไทยกับกัมพูชา"นายปองพลกล่าว
นายปองพล กล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้จะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในหมู่ประเทศเอเชียและแปซิฟิค คาดว่าคงจะพูดถึงกรณีปราสาทพระวิหารด้วย และเช้าวันที่ 5 ก.ค. เวลา 08.00 น.ตามเวลาแคนาดา จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารของที่ประชุม ซึ่งทราบว่าประธานจะหารือเกี่ยวกับวาระ 8 ปีในส่วนที่เกี่ยวกับปราสาทพระวิหารด้วย โดยได้ทราบเป็นการภายในว่าอาจจะเสนอให้พิจารณากรณีปราสาทพระวิหารเป็นเรื่องสุดท้าย เพื่อให้เวลากรรมการปรึกษาหารือและศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน
นายปองพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการบริหารจัดการมรดกโลก ที่ได้รับการขึ้นบัญชีในภาวะเสี่ยงอันตราย (State of Conservation of the Properties inscribed on the List of World Heritage in Danger) จำนวน 31 แห่ง ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีแหล่งมรดกโลกของไทย เช่น อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นบัญชีในภาวะเสี่ยงอันตราย