ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรค แถลงว่า 2-3 วันที่ผ่านมา นายกฯพูดจาพาดพิงในญัตติของฝ่ายค้านหลายเรื่อง
นอกจากจะคลาดเคลื่อนบางครั้งยังกล่าวหากล่าวเท็จ โดยนายกฯ และสมาชิกพรรคพลังประชาชนพูดว่ามีขบวนการของพรรคประชาธิปัตย์กับกลุ่มพันธ มิตรฯ สมคบกันเล่นการเมืองนอกระบบ ที่คาดไม่ถึงคือนายกฯ ใช้วาจาข่มขู่ว่าหากวันใดฝ่ายค้านมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลก็จะจัดตั้งส.ส.สอบตก 5 คน มาตั้งแก๊งข้างถนนเพื่อขับไล่ ที่สำคัญเหมือนกับว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง ขอย้ำว่าการดำเนินการของพันธ มิตรฯไม่เกี่ยวข้องกับพรรค หลายครั้งการอภิปรายบนเวทีจะตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ ยิ่งกว่านั้นหลายข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯไม่ได้เป็นคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนไม่มองว่าพันธมิตรฯเป็นแก๊งข้างถนนและไม่ได้มองกลุ่มอื่นๆ ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเป็นแก๊งข้างถนน แต่ถือเป็นประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
"กลุ่มพันธมิตรฯมีมาก่อนรัฐบาลนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากคุณสมัครมาเป็นนายกฯ แล้วจะมากล่าว หาว่าพอคุณสมัครเป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์เลยไปอยู่เบื้องหลังจัดตั้งพันธมิตรฯขึ้นมา อย่างนี้ไม่สมเหตุสมผล ขอให้หยุดใส่ร้ายและหยุดเบี่ยงเบนประเด็น อย่าให้เกิดเงื่อนไขของการชุมนุม อย่าเอาเรื่องของฝ่ายค้านไปใส่ร้ายป้ายสี" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเปลี่ยนท่าทีของรัฐบาลต่อการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจและเห็นความสำคัญในกระบวนการของสภา
เห็นได้ชัดจากการแสดงออกของนายกฯในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ที่พูดทำนองว่าญัตติเขียนมาอย่างนั้นต้องการให้พูดจะได้จบๆกันไป อยากเรียนว่าหากนายกฯเคารพกระบวน การของสภา ควรรอฟังการอภิปรายและใช้สิทธิ์ชี้แจง ถ้าข้อมูลและเหตุผลของฝ่ายค้านไม่หนักแน่น อย่าว่าแต่นายกฯเลย ประชาชนทั้งประเทศจะตำหนิฝ่ายค้าน จึงไม่ใช่เรื่องที่นายกฯจะมาตัดสินล่วงหน้าว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่มีเหตุผล
เมื่อถามว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะยื่นถอดถอนนายกฯและรัฐมนตรีด้วยหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะพิจารณาอีกที แต่หวังว่าส.ส.ทุกคนจะเปิดใจกว้างฟังข้อมูลในวันอภิปรายโดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหาร ขอให้ส.ส.ทุกคนแสดงออกว่าไม่ไว้วางใจนายกฯและรมว.ต่างประเทศ และจะได้ทราบว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าหลักฐานและข้อมูลที่ฝ่ายค้านมีอยู่นั้นชี้ให้เห็นว่าไทยกำลังเสียดินแดน ตามมาตรา 190 ใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการกระทำเกินขอบเขตอำนาจตามมาตรา 190 ซึ่งมีผลต่ออธิปไตยของประเทศ