เหลิม ปูด หมัก ยืมมือเชือดเอเอสทีวี-เคเบิลท้องถิ่น

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักอยู่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเปิดเวทีโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดยุทธการดาวกระจายเคลื่อนขบวนไปชุมนุมกดดันยังสถานที่ต่างๆ สร้างความหนักใจให้แก่คนในรัฐบาล จนต้องหามาตรการออกมาตอบโต้

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกระทรวงมหาดไทย ประจำเดือนมิถุนายน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ

 ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ฟังอยู่ เตรียมปากกาขึ้นมาจดข้อกฎหมายที่ตนศึกษามา และนำไปชี้แจงต่อประชาชนในพื้นที่ว่า เคเบิลทีวีหรือสถานีโทรทัศน์ระบบบอกรับในจังหวัดใดๆ ที่รับสัญญาณของช่องเอเอสทีวีไปเผยแพร่ต่อนั้น ถือเป็นการทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ฐานโฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดต้องใช้มาตรการทางการปกครอง ขอร้องผู้ประกอบการเคเบิลทีวีให้ยุติการออกอากาศ หากขอร้องแล้วไม่ได้รับความร่วมมือ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการเคเบิลทีวีนั้นๆ 

 ร.ต.อ.เฉลิมยังกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมผู้บังคับการตำรวจแต่ละจังหวัด เพื่อหารือถึงการดำเนินการเรื่องนี้ ว่าปล่อยให้มีการกระทำผิดได้อย่างไร การรับสัญญาณของเอเอสทีวีไปเผยแพร่ต่อ ต้องถือว่าเจ้าของเคเบิลมีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วย ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้คิดทำเรื่องนี้ เพราะถูกโจมตีหรืออาฆาตมาดร้ายจากพันธมิตร แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายขอใช้บริการของกระทรวงมหาดไทย เพราะเคยทำได้ดีในเรื่องการดำเนินการกรณีเว็บไซต์ไม่เหมาะสม 29 เว็บไซต์

บี้ผู้ว่าฯ ใช้มาตรการกฎหมายเล่นงาน

 ภายหลังการประชุมกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิมแถลงว่า ตนและคณะได้ทำการศึกษาแล้ว พบว่าประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 วรรคแรก ระบุไว้ชัดผู้ใดโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป ให้กระทำความผิดและความผิดนั้น มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ผู้นั้นต้องระวางโทษกึ่งหนึ่ง วรรคที่สองบอกว่าถ้าได้มีการกระทำผิด เพราะเหตุที่ได้มีการโฆษณาหรือประกาศตามวรรคแรก ผู้โฆษณาหรือประกาศต้องรับโทษเสมือนตัวการ คือ คนทำผิดรับโทษเท่าใด ผู้โฆษณาก็ต้องรับโทษเท่านั้น

 "เอเอสทีวีก็รู้ว่าการถ่ายทอดสดการชุมนุม ถือว่าเป็นการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด เพราะรู้ว่าเขาผิดแล้วยังมาเผยแพร่ ซึ่งเมื่อผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 85 ก็ต้องดูว่าคนที่มีจานของเอเอสทีวีผิดหรือไม่ ซึ่งเราวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วไม่ผิด เพราะเขาไม่ได้เผยแพร่ จะผิดก็แต่สถานีแม่ ซึ่งแจ้งจับได้ทุกวัน ต่างกรรมต่างวาระ และไม่จำเป็นต้องแจ้งจับใน กทม. จะแจ้งจับที่จังหวัดใดก็ได้ ในส่วนของเคเบิลทีวีผู้ประกอบการเองก็รู้แล้วว่าพันธมิตรทำผิด และมีคนไปกล่าวโทษ รวมทั้งรู้ว่าเอเอสทีวีถ่ายทอดเป็นความผิด ถ้าผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเอารายละเอียดการถ่ายทอดสดไปจูนใส่เคเบิลทีวี หรือนำไปเผยแพร่ ผู้ประกอบการก็มีความผิด" รมว.มหาดไทยกล่าว

 ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปประสานกับผู้บังคับการตำรวจในแต่ละจังหวัด ให้ใช้มาตรการ 2 ส่วน คือมาตรการทางการปกครอง และมาตรการทางกฎหมาย ถ้าผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจต้องบันทึกเทปรายละเอียดเคเบิลทีวีที่รับสัญญาณจากเอเอสทีวีเพื่อดำเนินคดี เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีคนไปร้องทุกข์เพราะเรื่องนี้เจ้าหน้าที่รัฐกล่าวโทษได้ ถ้ารวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน เรามีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย เขาเรียกกฎหมายบังคับใช้ศาลคุ้มครอง และไม่เกี่ยวกับกรณีที่ศาลปกครองให้ความคุ้มครองเอเอสทีวีอยู่ ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจไม่ทำก็ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ฉุนนักข่าวถาม-ขู่งดให้สัมภาษณ์

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์ รมว.มหาดไทยมีอารมณ์โกรธผู้สื่อข่าวที่ถามคำถามว่า ว่าการออกกฎหมายมาดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรจะทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายหรือไม่ โดย ร.ต.อ.เฉลิมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกกฎหมาย ผู้สื่อข่าวจะไปเขียนข่าวผิดๆ พร้อมทั้งขู่ว่า หากนักข่าวยังขาดความเข้าใจในรัฐบาลและไม่ให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลอีก ก็จะงดให้สัมภาษณ์

 "ผมดังพอแล้ว ไม่ต้องออกข่าว บางครั้งพวกคุณก็มากไป เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ไปรายงานข่าว ผมเสียหายตลอด ผมไม่เคยเรียกพวกคุณมาสัมภาษณ์ มีแต่อยากสัมภาษณ์ผม” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอย่างมีอารมณ์


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์