ส่วนนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ อดีตที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์
ถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่ามีรมต.คนหนึ่งซึ่งใกล้ชิดกับนักการเมืองใหญ่ที่มีคดีอยู่ในศาลฎีกาฯ นัดพบองค์คณะคดีในศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่โรงแรมอมารีวอเตอร์เกทว่า คงไม่มีรมต.คนไหนอยู่เบื้องหลังการเอาเงิน 2 ล้านบาทไปติดสินบนเพื่อทำลายศาลอย่างที่ตั้งข้อสังเกตกัน ส่วนที่มองว่าตนใกล้ชิดกับอดีตนักการเมืองใหญ่นั้น ยืนยันว่าไม่เคยไปนัดกินข้าวกับศาลอย่างแน่นอน เพราะเงินแค่ 2 ล้านบาทเทียบไม่ได้กับคุณค่าของรมต.ซึ่งสูงกว่าเงินจำนวนดังกล่าวเยอะ ทั้งนี้ตนเห็นด้วยที่ศาลฎีกาตั้งกรรมการตรวจสอบ และขอเรียกร้องว่าหากใครมีข้อมูลก็ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการให้เกิดความโปร่งใสได้เลย
ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา มีคำสั่งแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คนขึ้นไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีทนายความนำเงิน 2 ล้านซุกมากับขนมฝากถึงเจ้าหน้าที่ศาล ว่า ผู้พิพากษาระดับสูงทั้ง 3 คนรับทราบคำสั่งแต่งตั้งแล้ว โดยจะเริ่มดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย
นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา นายวีระพล ตั้งสุวรรณ และนายอิศเรศ ชัยรัตน์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา โดยจะเริ่มไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เบื้องต้นจะไต่สวนเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาที่อยู่ในเหตุการณ์หรือเห็นเหตุการณ์ก่อน หากพาดถึงใครก็เรียกตัวมาไต่สวนต่อไป จำนวนบุคคลที่จะถูกไต่สวนยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด การไต่สวนบุคคลภายในศาลฎีกาจะกระทำภายในไม่เปิดบัลลังก์ไต่สวน แต่หากเป็นบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ศาลจะเปิดบัลลังก์ไต่สวน แต่จะเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าฟังการไต่สวนหรือไม่นั้นขึ้นกับดุลพินิจขององค์คณะ เพราะองค์คณะอาจมีคำสั่งพิจารณาลับก็ได้ คาดว่าจะไต่สวนแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า