พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)
เป็นประธานประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดส่วนราชการกระทรวงกลาโหมที่จะประชุมกันทุกเดือน มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ที่กองทัพเรือ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ พล.อ.บุญสร้างกล่าวภายหลังประชุมว่า ผบ.เหล่าทัพประชุมเรื่องการพัฒนากองทัพเป็นหลัก
ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมืองภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือเรื่องของ คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) เพราะจะต้องใช้อีกเวทีหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศก็มีบ้าง เพราะเราต้องป้องกันประเทศ เพราะเรื่องปัญหาต่างๆ ภายในประเทศ ถ้าเกิดมีขึ้นมาก็มีระบบ เนื่องจากเมื่อมีการพัฒนากองทัพแล้วจะยอมรับได้ ทั้งนี้ ถ้ามัวพูดถึงปัญหาตลอด โดยไม่พัฒนากองทัพให้เข้มแข็ง หากมีปัญหาขึ้นมาก็จัดการอะไรไม่ได้
ส่วนเรื่องการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในนั้น พล.อ.บุญสร้างปฏิเสธว่าที่ประชุมไม่ได้คุยกัน ส่วนเรื่องของการชุมนุมทุกคนเป็นห่วง เพราะอยากเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้า แต่ละกลุ่มจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร ก็ไม่เหมือนกัน กลุ่มนั้นบอกต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ก่อน อีกกลุ่มก็บอกต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ มันก็ไม่ลงเอยกันก็มีปัญหา
เมื่อถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกมาบอกปัดเรื่องระดมความคิดของอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คนเพื่อแก้ปัญหา
พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ถ้าตอบไม่เห็นด้วย คงไม่เหมาะและไม่มีหน้าที่ตอบในเรื่องนี้ ผู้นำทางทหารไปพูดเรื่องการเมืองในลักษณะแบบนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะสม ส่วนถ้าหาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯจะสามารถไกล่เกลี่ยปัญหาได้หรือไม่นั้น พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นอยู่ที่คนพูดและคนฟัง ส่วนกรณี พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุให้ยุบสภาเพื่อแก้ปัญหานั้น ทหารอย่างตนมาพูดเรื่องนี้คงไม่เหมาะและผิดวินัยด้วย
เมื่อถามว่า กังวลว่าการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรจะบานปลายหรือไม่
พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า จะบานหรือไม่อยู่ที่คน อยากให้ช่วยกันมองไปในอนาคตกันดีกว่าและช่วยกันทำ บางทีเราติดอยู่กับปัญหาเฉพาะหน้ามากเกินไป ไม่มองไปที่อนาคตทำให้เราไม่มีอะไรร่วมกันเลย เพราะปัจจุบันก็เดินกันคนละหัวระแหง บ่อน้ำคนละบ่อ เดินไปทางซ้ายบ้างขวาบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นจะลงบ่อ มันก็คนละทาง
''แต่ถ้าเรามองไปไกล เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ถึงแม้จะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ตรงนี้ไม่เหมือนกัน ปลายทางเราก็จะไปรวมเป็นจุดเดียวกันซึ่งจะมีความรู้สึกที่ดี ว่าที่เราเลี้ยวเป็นเพราะปัญหาเฉพาะหน้า เราเป็นคนไทยด้วยกันก็ไปในทำนองเดียวกัน แต่ถ้าไม่คุยถึงจุดมุ่งหมายสุดท้าย มันจะหาจุดร่วมยากที่เขาเรียกว่า แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ยังใช้ได้''
เมื่อถามว่า จากสถานการณ์การจะมาร่วมเป็นจุดเดียวกันดูเหมือนจะยาก พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ''ไม่ได้ยาก แต่อยู่ที่คน ถ้าคนรวมง่ายก็จะง่าย ส่วนคนที่จะเป็นตัวกลางในการประสานนั้น มองว่าถ้าทุกท่านปรึกษาพระพุทธเจ้าบ้างหรือคนที่สร้างคุณประโยชน์น่าจะรวมง่ายขึ้น''