ฝนถล่มศิลปินหลังเริ่มพิธีสาปแช่งพันธมิตร

 พปช.ชี้ 'จำลอง' กระหายเลือดลัทธิผู้คนพร้อมฆ่าตัวตาย แนะให้ไล่'อภิรักษ์' ปล่อยม็อบยึดถนน ท้า'มหาจำลอง' อดอาหาร 'สุริยะใส'วางหรีดช่อง11รับ'หมัก' 8 มิ.ย.ก่อนอัดรายการ 'สนทนาประสาสมัคร' 'จำลอง'ปัดอดข้าวกลัวไม่มีแรง

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน กทม. ยังคงมีประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเมื่อเวลา 10.00 น. มีประชาชนร่วมชุมนุมและฟังการปราศรัยบนเวทีสลับกับรายการบันเทิง ประมาณ 1,000 คน และตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเย็น ได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20,000 คน โดยกองทัพธรรมได้จัดกิจกรรมห้องเรียนฐานอาชีพ เปิดสอนวิชาชีพหลายด้านให้ผู้ชุมนุมฟรี มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการแพทย์ทางเลือกที่สอนเรื่องการจับเส้นและฝังเข็ม

'จำลอง'กลัวไม่มีแรง-ปัดอดข้าว

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรให้สัมภาษณ์ช่วงเช้าว่า วันนี้อาจจะมีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมออกไปที่อื่น แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นที่ไหน ต้องรอผลการประชุมแกนนำและผู้ชุมนุมก่อนในตอนเย็น จึงจะทราบผล ส่วนกระแสข่าวจะอดอาหารประท้วงนั้น ไม่เป็นความจริง สถานการณ์ปัจจุบันต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา จึงใช้การอดอาหารไม่ได้เดี๋ยวจะไม่มีแรงเคลื่อนไหว และขอปฏิเสธข่าวลือการสะสมอาวุธสงคราม มีแต่เพียงไม้เบสบอลสำหรับป้องกันตัวกรณีมีคนเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุม

อย่างไรก็ตาม เวลา 17.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานแกนนำพันธมิตรแถลงว่า ช่วงนี้จะยังไม่เคลื่อนไปไหน จะยังยืนหยัดปักหลักที่สะพานมัฆวานฯต่อไป แต่ถ้า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อาจเคลื่อนขบวนไปปิดหน้ารัฐสภา

8 มิ.ย.วางหรีดช่อง11รับ'สมัคร'

นายสุริยะใสกล่าวว่า ในช่วงฟุตบอลยูโร พันธมิตรจัดถ่ายทอดสดที่บริเวณวัดโสมนัสฯ เท่าที่ศึกษากฎหมายไม่มีความผิดเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะไม่ได้หากำไร หรือเชื่อมสัญญาณดาวเทียม แต่เปิดจากช่องฟรีทีวี แต่กิจกรรมทางการเมืองก็ยังดำเนินไป ไม่ได้หยุดไประหว่างถ่ายทอดสดบอล สำหรับวันที่ 8 มิถุนายน เวลา 09.00 น. จะมีตัวแทนไปวางพวงหรีดที่หน้าสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที (ช่อง 11) เวลา 11.00 น. พันธมิตรจะขึ้นเวทีตอบโต้นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯที่ออกรายการ 'สนทนาประสาสมัคร' วันที่ 9 มิถุนายน เวลา 13.00 น. ไปให้กำลังใจ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.)

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำอีกคน กล่าวว่า ในที่ 9 มิถุนายน จะไปให้กำลังใจ คตส.และนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการทำงาน เนื่องจากถูกรัฐตำรวจกลั่นแกล้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรที่ไปยึดข้างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เยื้องทำเนียบรัฐบาล ได้สลายตัวไปตั้งแต่เย็นวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ไม่ได้ปักหลักยึดพื้นที่ตามที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำให้สัมภาษณ์ไว้แต่อย่างใด

ฝนถล่มหลังเริ่มพิธีสาปแช่ง

ทั้งนี้ บนเวทีมีการแสดงของกลุ่มศิลปินในสไตล์โฟล์คซอง มีแกนนำจาก จ.เชียงราย ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวโจมตีแกนนำกลุ่มพันธมิตรทั้ง 6 คน ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ประกาศห้าม พล.ต.จำลองใส่เสื้อม่อฮ่อมสัญลักษณ์ของคนเหนือไปร่วมเวทีในกลุ่มพันธมิตร ส่วนบริเวณด้านล่างมีสมาชิกสภาประชาชนภาคเหนือตั้งโต๊ะจำหน่ายหนังสือและแผ่นซีดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแจกป้ายผ้าและธงสีแดงเขียนอักษรว่า 'เจ๊ง จน เครียด แก้รัฐธรรมนูญ และเอารัฐธรรมนูญ 40 คืนมา' ให้กับประชาชนประมาณ 200 คน ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดงเข้าร่วมกิจกรรม

จากนั้นเวลา 16.50 น. นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล นายพรหมศักดิ์ แสงโพธิ์ และแกนนำคนสำคัญในภาคเหนือ ร่วมกันทำพิธีสาปแช่งตามประเพณีล้านนาและจุดไฟเผาพริกเผาเกลือรูปภาพและหุ่นจำลองของ 6 แกนนำพันธมิตร ปรากฏว่า ระหว่างเริ่มทำพิธีมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องจนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องวิ่งหลบฝนกันอย่างอลหม่าน

เวลา 17.40 น. ฝนซึ่งเทกระหน่ำลงมาได้ค่อยๆ หยุด แกนนำคนสำคัญอาทิ นายพรหมศักดิ์ แสงโพธิ์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุทธิ์ นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และ นพ.เหวง โตจิราการ ได้ขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง ผลัดเปลี่ยนกันกล่าวโจมตีกลุ่มแกนนำพันธมิตร โดยประกาศว่าจะจับมือกับองค์กรประชาชนทั้งในและต่างประเทศเพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สร้างสรรค์ประชาธิปไตย เพื่อคัดค้านการรัฐประหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก แม้จะมีคนมาร่วมกิจกรรมไม่มากนัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 25 นาย จาก สภ.เมืองเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน 20 นาย มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย และมีรถสุขาเคลื่อนที่ รถไฟฟ้าส่องสว่างจากเทศบาลนครเชียงใหม่ และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)เชียงใหม่ จำนวน 2 คันมาให้บริการ

'กุเทพ'ชี้'จำลอง'เป็นโอมชินริเกียว

ร.ท.กุเทพ ในกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร กำลังอยู่ในช่วงของการยืดเวลาให้นานที่สุด โดยหวังว่าจะให้เกิดการสถานการณ์แทรกซ้อนเปลี่ยนแปลงในทางใดทางหนึ่ง จึงพยายามอธิบายความและสร้างภาพว่ารัฐบาลจะสร้างรัฐตำรวจขึ้นมาในประเทศ โดยเฉพาะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ซึ่งสร้างลัทธิจำลองที่ไม่แตกต่างจากลัทธิโอมชินริเกียว ในบางประเทศที่มีคนที่พร้อมจะฆ่าตัวตายเพื่อลัทธินี้ ตอนนี้ต้องไปไล่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ที่ปล่อยให้ม็อบมายึดถนน จนคน กทม.เดือดร้อน

นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า การชุมนุมที่ไหนก็ไม่นานนัก แต่ครั้งนี้นาน แสดงว่ามีอำนาจซับซ้อนที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตร และเป็นอำนาจนอกประชาธิปไตย การเมืองไทยจะไคลแมกซ์ในวันที่ 30 กันยายน 2551 ที่จะมีข้าราชการผู้ใหญ่เกษียณจำนวนมาก โดยเฉพาะในกองทัพ และที่จะเกษียณจริงๆ อยู่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) วันนี้ คมช.แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ คมช.เก่า และ ครช.แปรรูป คมช.เก่ายังฮึดฮัดๆ แต่ คมช.แปรรูปนั้นวันนี้นั่งคุยกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่างเข้าใจกันทุกวัน

'จตุพร' ชี้เป้ายึดทำเนียบ-สภา

ที่พรรคพลังประชาชน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ศูนย์วิเคราะห์ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า การดำเนินการยุทธการดาวกระจายของกลุ่มพันธมิตรเป็นเพียงการเบี่ยงเบนประเด็นเท่านั้น แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการบุกยึดทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรีเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ จากนั้นเป้าหมายที่สองคือ การปิดล้อมรัฐสภา โดยให้นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตร ไปปิดล้อมสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลไว้ก่อน แล้วจึงค่อยจัดคนเพื่อให้ไหลไปชนกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณหลังสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้ตำรวจถูกปิดล้อม เพื่อยึดทำเนียบรัฐบาลในที่สุด 

นายจตุพรกล่าวว่า ขอฝากตำรวจว่าในช่วงวันที่ 7-8 มิถุนายน ที่กลุ่มพันธมิตรประกาศว่าจะไปชุมนุมที่กรมประชาสัมพันธ์ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีจะไปออกรายการ ' สนทนาประสาสมัคร ' แต่เป้าหมายจริงๆ คือการปิดล้อมทำเนียบ ตำรวจต้องป้องกันไม่ให้มีการไหลของคนไปชนกัน โดยเฉพาะ 1-2 วันนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นช่วงที่เปราะบางมาก เพราะจะมีคนจำนวนหนึ่งที่ขนหรือระดมกันได้ หากไม่ทันระวัง หรือหย่อนยาน ก็จะมีการบุกไปยึดทำเนียบรัฐบาลได้ไม่ยาก

อ้าง'จำลอง'อยากเห็นพลังเลือด

นายจตุพรกล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงเวลานี้คือ ท่าทีของกลุ่มพันธมิตรที่ออกมาปฏิเสธพลังสีขาวอย่างรุนแรง โดยวิจารณ์ว่าเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว จึงขอประณาม แสดงว่ากลุ่มพันธมิตรต้องการเห็นพลังสีเลือดเกิดขึ้นมาแทนใช่หรือไม่ จึงอยากขอให้คนไทยออกมาทำพลังสีขาวให้เต็มแผ่นดิน เพื่อไม่ให้เกิดพลังสีเลือด

'พล.ต.จำลอง ศรีเมือง มีความเชื่อว่าถ้าเสียงปืนนัดแรกหรือเลือดได้หยดลงมาถือเป็นชัยชนะของพวกตนเอง ผมอยู่บนรถกับ พล.ต.จำลองในวันที่เสียงปืนนัดแรกของเหตุการณ์พฤษภา 35 เกิดขึ้น การดีใจของ พล.ต.จำลอง โดยไม่รู้ว่าเป็นเสียงปืนของฝ่ายใด ผมยังจำท่าทางและแววตาได้เป็นอย่างดี พล.ต.จำลองได้พูดขึ้นว่าเราชนะแล้ว เพราะฉะนั้นจึงบอกว่า ทัศนคติของ พล.ต.จำลองที่ปฏิเสธพลังสีขาว และจะนำสู่พลังสีเลือดนั้น ยังเชื่อว่ายังมีหนทางเหล่านี้อยู่' นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี ส.ส.หลายคนหรือ ส.ส.สอบตกของพรรคไปขึ้นเวทีพันธมิตรเต็มไปหมด และมีการระดมคนในเขตพื้นที่เลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมชุมนุม อยากให้นายอภิสิทธิ์ ถ้ายังคิดที่จะเป็นนายกฯอยู่ ขอให้ทำหนังสือเรียกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กลับมาต่อสู้ในสภา ใครขัดขืนก็ให้ขับออกจากสมาชิกพรรค อย่าปากว่าตาขยิบ ถ้านายอภิสิทธิ์ยังเล่นการเมืองแบบนี้ วันใดที่ได้เป็นนายกฯ เพียงแค่ 3 เดือนก็จะต้องได้รับชะตากรรมแบบเดียวกับนายสมัคร กรรมใดใครก่อกรรมนั้นจะสนอง

อ้างจ้างคนเก็บขยะมาเทผลไม้แกล้ง

เวลา 18.00 น. บนเวทีพันธมิตรได้จัดสัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.จำลอง โดย พล.ต.จำลองให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งยืนยันว่า การชุมนุมของตนไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ทำเพื่อชาติ ตนไม่โกรธ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะยังถือเป็นน้องเจอกันยังทักทาย ถ้าเจอจะบอกว่าเพราะไม่เชื่อตนจึงเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ตนทำเพราะต้องรับผิดชอบที่เอาทักษิณเข้ามา ทุกวันนี้ถ้าไม่ออกมาชุมนุม ไม่ออกมาต้าน ทุกอย่างจะแย่ แม้แต่ทหารก็กำลังฝ่อ จนกระบวนการยุติธรรมถูกโจมตี ยืนยันไม่ได้ถูกใครหลอกให้ออกมา และการชุมนุมจะไม่พัฒนาสู่ความรุนแรง ไม่อยากเห็นความวุ่นวายนองเลือด

'แม้เราจะทำให้ใครเดือดร้อนอึดอัดขัดเคือง แต่ก็ขอให้อดทนหน่อย เพราะพวกเรากำลังเสียสละเพื่อชาติ และยืนยันว่าจะไม่ยอมแพ้ แม้ถูกรัฐบาลใช้วิชามาร เอาแม่ค้าปลอมที่ไปสืบมาแล้วรู้ว่าเป็นแค่คนเก็บขยะที่ตลาดนัดสวนจตุจักร จ้างเอาผลไม้มาทิ้ง ไม่ใช่แม่ค้าตลาดเทเวศร์ และขอบอกนายกุเทพ ใสกระจ่าง ว่าตนไม่ใช่ลัทธิโอมชินริเกียว' พล.ต.จำลองกล่าว

'จำลอง'อ้างเข้าใจ'อนุพงษ์'

พล.ต.จำลองยังกล่าวถึงท่าทีของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนี้ ว่า ไม่อยากมอง เดี๋ยวเสียน้ำใจ รักษาน้องคนนี้ไว้ดีกว่า ตนไม่ได้ไม่พอใจ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่รู้จักส่วนตัว แต่ติดตามผลงานตลอด เข้าใจว่าขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. เป็นข้าราชการประจำ พูดได้มากแค่นี้ ส่วนการที่พล.อ.อนุพงษ์บอกว่าเข้าข้างประชาชนส่วนใหญ่นั้น ตนมองว่าเข้าข้างประชาชนส่วนใหญ่ที่ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ตอนนี้อย่าไปคาดคั้น พล.อ.อนุพงษ์ เพราะท่านยังรับราชการ อย่าไปโมโห ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ต้องบอก พล.อ.อนุพงษ์ให้ช่วยกันรักษาบ้านเมืองไว้
ชี้'ดา ตอร์ปิโด'จัดแม่ค้ามา

พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ทหารนอกราชการ กล่าวบนเวทีว่า อยากให้ทหารรักษาพระองค์ทุกหน่วยตื่นได้แล้ว หายหัวไปไหนกัน ทหารราชองครักษ์ก็เช่นกัน หายไปไหน พฤติกรรมของบางกลุ่มที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้เป็นความพยายามโค่นล้มสถาบัน และสถาปนาสาธารณรัฐขึ้นมาในยุคนี้
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าวบนเวทีว่า มีเพื่อน พ.ต.ท.จากสันติบาลมาบอกว่า แม่ค้าที่นำผลไม้เน่ามาทิ้งที่ถนนราชดำเนินกลางเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาเพื่อประท้วงพันธมิตรเป็นแม่ค้าปลอมที่ 'ดา ตอร์ปิโด' จัดมา

'บรรณวิทย์ ' รับร่วมม็อบพันธมิตร

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตประธานคณะที่ปรึกษาพิเศษกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตนตัดสินใจร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตร เพราะได้ตั้งกลุ่มสมัชชาประชาชนขึ้นมาร่วมกับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และนายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เป็นการต่อสู้ภาคประชาชน ซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว หากแพ้กันอีกก็คงยอมให้เขาเอาประเทศไป

'รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เพราะผ่านมา 3 เดือนมีการบริหารแผ่นดินผิดพลาด และไม่แก้ปัญหาข้าวยากหมากแพง มุ่งล้างแค้นแต่เพียงผู้ที่ตรวจสอบทุจริต พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว อย่างนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตดีเอสไอ และ คตส. กำลังโดนเช็คบิลเป็นการล้างแค้นไม่สิ้นสุด' พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าว

'อนุพงษ์' ลั่นอยู่ข้างปชช.

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ ลับ ลวง พราง เดอะ เรดิโอ ทาง อสมท คลื่น 100.5 ถึงสถานการณ์การเมืองกับจุดยืนของตนเองว่า ปัญหาทางการเมืองมีแนวทางแก้ไขของตัวเอง การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ถ้าจะเอาทหารเข้าไปยุ่งจะยิ่งทำให้วุ่นหนักเข้าไปอีก แล้วคงไม่ใช่หน้าที่ ทหารจะเป็นทหารของชาติและพร้อมทำงานเพื่อสังคม ส่วนรวม ตามบทบาทหน้าที่ของตัวเอง คงไม่ไปยุ่งในลักษณะที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้เขาแก้ไขปัญหากันไปตามวิถี ดูแลความมั่นคงไป ทางออกอยากให้สังคมค่อยๆ ดูเรื่องผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทำไปแล้วจะเป็นอย่างไรมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมในทุกด้านทุกคนอย่างไร

ถามว่า สังคมคาดหวังให้ ผบ.ทบ.อยู่ฝ่ายประชาชนในสถานการณ์ที่ต้องเลือกข้าง พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า'โอ๊ย...ผมอยู่ข้างประชาชนอยู่แล้ว ผมบอกแย้มๆ หลายทีแล้วว่า ผมอยู่ข้างประชาชน ไม่มีปัญหา ผมทำตามอำนาจหน้าที่ กองทัพบกต้องอยู่กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ เราจะอยู่ข้างไหนไม่ได้ทั้งสิ้น ผมบอกหลายที ผมเป็นทหารของประชาชน แล้วผมทำตามหน้าที่ ชัดเจนอยู่แล้ว'

ตร.ยันไม่สร้างเรื่องทำลายม็อบ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 บช.น. พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้ประชุมรับฟังสรุปสถานการณ์ภารกิจวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง เนื่องจาก พล.ต.อ.วิโรจน์ และ พล.ต.อ.ปานศิริเพิ่งมารับผิดชอบการรักษาความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม ทำให้มีการซักถามรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งแนะนำแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกมาก ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมที่ตรากตรำทำงานหนักมาตลอดการชุมนุม 14 วันหลับพับคาเก้าอี้หลายนาย

พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษก สตช. แถลงว่า ตร.ขอยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเป็นสิทธิที่กระทำได้ ตราบใดที่เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แต่การชุมนุมที่ผ่านมามีการสั่งการจากแกนนำที่ชัดเจนที่จะปักหลักการชุมนุมบนถนนราชดำเนิน ก่อให้เกิดปัญหาด้านการจราจรต่อประชาชนที่ต้องเดินทางผ่านถนนราชดำเนิน ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางรองอื่นๆ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อผู้พักอาศัย เด็กนักเรียน ผู้ค้าขาย

'ยืนยันว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของกลุ่มพันธมิตรตามที่กลุ่มพันธมิตรให้ข่าวหรือวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อมวลชน'

'มาร์ค ' ยอมลูกพรรคแอบหลังเวที

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่พรรคพลังประชาชนเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ทำหนังสือถึงสมาชิกพรรคและ ส.ส.ของพรรคให้มาต่อสู้ในระบบรัฐสภาว่า ทุกคนมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้มีเพียงนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้นที่ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งพรรคได้กำชับให้นายสมเกียรติเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ถ้าจำกันได้เมื่อปี 2535 พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มี ส.ส.จำนวนมากออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นพรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรม พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเอกภาพ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ เหมือนพันธมิตร โดยพรรคอนุญาตเฉพาะนายสมเกียรติ เพราะเห็นว่าเคยเป็นแกนนำพันธมิตรมาก่อน จึงไม่แปลกใจที่มีแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวไปขึ้นเวทีต่อต้านกลุ่มพันธมิตรก็เหมือนกัน

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนระบุว่ามี ส.ส.ของพรรคที่ไม่ได้เป็นแกนนำ ไม่ได้ขึ้นเวทีแต่หลบอยู่หลังเวที นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า 'เขาไปทำอะไรผิด ถ้ายังมีการเคลื่อนไหวภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิของประชาชนทุกคน ซึ่งพรรคได้กำชับว่าแม้จะเป็นสิทธิแต่ไม่น่าขึ้นเวที ส่วนการแวะเวียนพบปะพูดคุยกับประชาชน สามารถทำได้ ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เรียกร้องให้สมาชิกไปต่อสู้ในระบบนอกรัฐสภา แต่เรากำลังหาทางออกช่วยกันโดยใช้วิธีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ตนเป็นผู้เสนอให้พรรคพลังประชาชนด้วยซ้ำ เมื่อทุกฝ่ายยอมรับ ก็ทำให้บรรยากาศดีขึ้น'

'จาตุรนต์'ให้ระวังเข้าทางรัฐประหาร

ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 แถลงว่า เท่าที่ดูแล้วคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในเวลาสั้นๆ เพราะกลุ่มพันธมิตรมีคนร่วมมืออยู่จำนวนมาก ไปร่วมชุมนุมกันเป็นพันเป็นหมื่นคน การจับกุมหรือสลายการชุมนุมจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ แม้จะละเมิดกฎหมายและสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ก็ต้องอาศัยการเจรจา การขอร้องด้วยเหตุผล

'การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ แต่พอบอกว่าจุดมุ่งหมายคือการล้มรัฐบาล ถ้าไม่ล้มไม่เลิก สู้จนกว่าจะชนะ อย่างนี้ก็อธิบายได้ยากว่าเป็นการเคลื่อนไหวในระบอบประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ฟังดูแล้วคล้ายกับตอน 19 กันยายน ที่นำไปสู่การรัฐประหาร ' นายจาตุรนต์กล่าว

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็จะนำไปสู่การใช้กำลังเข้าไปจับกุม จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายพันธมิตรมากกว่า เพราะจะเป็นเหตุที่ขอให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ เป็นแผนตื้นๆ จึงไม่ควรไปทำให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มพันธมิตรโดยไม่จำเป็น การแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองในขั้นนี้ ทุกฝ่ายน่าจะหารือและพูดให้เป็นเสียงเดียวกันว่าประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย และต้องเคลื่อนไปข้างหน้าในทิศทางที่จะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น รวมทั้งต้องย้ำว่าการแก้ปัญหานอกระบบ ใช้กำลังโดยการรัฐประหารนั้น เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด จะจำกัดความเสียหายจากวิกฤตทางการเมืองได้ขั้นหนึ่ง รวมทั้งผู้นำทหารก็ควรพูดให้ชัดด้วย เพราะบางคนยังพูดก้ำ ๆ กึ่งๆ มีเงื่อนไขบ้าง ไม่ค่อยแน่นอนบ้าง ทำให้นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่

'สมชาย' ปัดเอี่ยวกลุ่มต้านที่ชม.

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ถึงกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ที่ จ.เชียงใหม่ประกาศเคลื่อนเข้า กทม. หากกลุ่มพันธมิตรไม่ยุติการชุมนุมว่า ส่วนตัวไม่อยากให้อีกกลุ่มยกขบวนไปต่อต้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าตนไปก้าวก่ายสิทธิ แต่ไม่อยากให้เกิดการปะทะ ไม่อยากให้คนไทยแตกแยกและรบราฆ่าฟันกันเอง ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้านพันธมิตร รับประกัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายให้เกิดความรุนแรง แต่ความคิดของแต่ละคนก็ไม่รู้จะไปแทรกแซงอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) และเป็นอดีตรัฐมนตรีไปปรากฏตัวในที่ชุมนุม เกรงว่าจะถูกเชื่อมโยงหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่มี และขอให้มั่นใจว่าไม่มี แต่ใครจะไปส่วนตัวก็ไม่ได้มาแจ้ง

กลุ่มต้านห้าม6พันธมิตรเหยียบชม.

เวลา 15.00 น. ที่ลานประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ หรือสภาประชาชนภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์กรประชาธิปไตย คือสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย สมาพันธ์คนรากหญ้าและโอท็อป คนเดือนตุลาประชาธิปไตยภาคเหนือ กลุ่มหมู่บ้านคนเมือง และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เปิดเวทีสำแดงพลังต้านพันธมิตร พร้อมออกประกาศจัดตั้งเขตปลอดแกนนำพันธมิตร ทั้ง 6 คนประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา ห้ามมาเยือน จ.เชียงใหม่ เพราะจะถูกคัดค้านต่อต้านทุกรูปแบบจนกว่าบุคคลทั้ง 6 จะยุติการชุมนุม


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์