ในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. ปีนี้ จะมีพายุพัดเข้าไทย น้ำ ทะเลยกตัวสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงปากอ่าวเจ้าพระยา และท่วม กทม.เป็น 2-3 สัปดาห์ จนทำให้ กทม.ไม่มีน้ำประปาบริโภค ว่า ตนไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกกับการคาดการณ์ ดังกล่าวแต่ขอให้ตื่นตัวกับภัยธรรมชาติที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่ง กทม.ก็ได้มีมาตรการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว โดยร่วมกับกรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เตรียมการป้องกันน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
ส่วนปัญหาน้ำทะเลที่อาจเอ่อล้นจนเข้าท่วม กทม.นั้นเราต้องประสานทุกหน่วยงาน รวมทั้งพื้นที่รอยต่อจังหวัด ใกล้เคียงโดยทำงานกันแบบบูรณาการ ส่วนระยะยาวก็ได้เตรียมการป้องกันโดยการสร้างแนวคันกั้นน้ำทะเลกัดเซาะ อย่างการรณรงค์ปลูกป่าชายเลนไว้แล้ว ทั้งนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมเต็มที่ ส่วนโบราณสถานที่มีความกังวลว่าน้ำจะท่วมขังนั้น กทม.ก็จะประสานกรมศิลปากรซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการทำนุบำรุงซ่อมแซมโบราณสถานเข้าดูแล
ด้านนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า
ในส่วนของ กทม.ได้จัดทำระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชั้นในไว้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้วโดยมีทั้งการทำคันกั้นน้ำ และจัดทำระบบระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ.