ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศเริ่มเสนอข่าวการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯ
ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นว่า ไม่น่ามีปัญหาเพราะต่างประเทศมองที่หลักการว่าการเลือกตั้งต้องเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่อยู่ที่ว่าการชุมนุมยืดเยื้อรุนแรงแค่ ไหน ซึ่งอาจจะมีผลในเชิงจิตวิทยา โดยรัฐบาลต้องทำงานและชี้แจงให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการประท้วงตั้งเป้าล้มรัฐบาลโดยกระบวนการนอกรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลยอมไม่ได้ เพราะมาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้การที่ พล.ต.จำลอง ศรี เมือง ประกาศยึดถนนราชดำเนินอย่างถาวรก็แสดงให้เห็นถึงวิธีคิดว่าไม่สนกฎหมายของประเทศยึดตัวกูของกูเอาความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ เกรงว่าจะทำให้ประเทศเสียหายเหมือนตอนสมัยรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนอยากให้แกนนำพันธมิตรฯทั้ง 5 คน ไปตั้งพรรคการเมือง และเข้าสู่ระบอบประชาธิป ไตยตามปกติเพราะไม่อย่างนั้นคนกลุ่มน้อยจะทำลายผลประโยชน์ของคนกลุ่มใหญ่ในระยะยาว
“ผมขอเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ดูแลสมาชิกพรรคที่ขึ้นร่วมปราศรัย บนเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯเพราะเป็นเรื่องที่เสียหาย ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ต้องบอกมาเลยว่าการกระทำของลูกพรรคเหมาะสมหรือไม่ และอยากทราบว่านายอภิสิทธิ์ ยังเชื่อมั่นการเมืองในระบบรัฐสภา หรือเชื่อว่าการได้มาซึ่งอำนาจรัฐโดยวิธีใด ก็ได้ เพื่อให้ตัวเองเข้าสู่อำนาจรัฐ ไม่อย่างนั้นประชาชนจะสับสนว่าตกลงพรรคประชาธิปัตย์ต้องการมีอำนาจผ่านการเลือกตั้งหรือต้องการเป็นรัฐบาลได้โดยไม่ว่าวิธีใด ๆ ก็ตาม เพราะว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” นายนพดล กล่าวและว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้การทำงานของกระทรวงการต่างประเทศยากขึ้นเพราะต้องชี้แจงให้ต่างประเทศเห็นว่ารัฐบาลจะไม่ยอม เพราะหากวันใดที่กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายวันนั้นเสรีภาพก็จบสิ้น แล้วจะมีการเลือกตั้งไปทำไม คงต้องให้ขึ้นอยู่กับว่าใครจัดม็อบได้มากกว่ากัน