พล.อ.อัคร เผย ผบ.ทบ.ตั้งเป้าหมายลดเหตุรุนแรง 3 จว.ชายแดนใต้ ปี 52 ต้องสงบ 'เหมือนโบกปูนปูกระเบื้องทับ' สั่งเข้มปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ชี้ปชช.เชื่อทางการมากขึ้น ปธ.ฯ ศูนย์อิศรา ชม จนท.เป็นกันเองมากขึ้น ยินดีช่วยเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า
พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ.) ได้บอกแล้วว่า ในปี 2552 เหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้จะต้องคลี่คลายลงอย่างเด็ดขาด "เปรียบเหมือนการโบกปูนทับสาเหตุของปัญหาแล้วปูกระเบื้องทับอีกชั้นจนปัญหาจะโผล่ออกมาจากพื้นดินไม่ได้อีก" และ ขณะนี้ทางหน่วยรับผิดชอบต้องเร่งเรื่องการปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารให้มากขึ้นเพื่อเอาชนะทั้งจิตใจและความคิด ทั้งในและนอกประเทศ
ทั้งนี้ พ.อ.อัคร กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในระหว่างการสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเศษ
ระหว่างผู้บริหารของสถาบันอิศรานำโดย นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหารสถาบัน ฯ, นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา กับคณะทำงานปฎิบัติการข่าวสาร กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า นำโดยพลตรีปรีชา บุญวัฒนะ ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 และ ผู้บริหารของ กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งเข้าเยี่ยมคารวะผู้บริหารของสถาบันอิศราฯที่ที่ทำการของสถาบันฯ โดย ทาง กอ.รมน.ภาค 4 บอกว่าต้องการหารือและพัฒนาความสัมพันธ์
พ.อ. อัคร บอกว่า ตอนนี้ทาง ผบ.ทบ. ให้ความสำคัญกับการปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารเป็นอย่างมาก
เพราะถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรับมือกับปัญหาภาคใต้ เพราะตอนนี้ทางกองทัพกำหนดตัวคู่ต่อสู้แล้วว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบซึ่งในการเอาชนะจะต้องใช้วิธีการและแนวคิดแบบใหม่ที่ต่างจากการทำสงครามแบบเดิมๆ ซึ่งเป้าหมายทางการเอาชนะทางความคิดและจิตใจ ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ
"ท่าน ผบ.ทบ. ใส่ใจเรื่องนี้มาก ท่านได้สั่งให้หน่วยงานในกองทัพตั้งคณะทำงานเพื่อทำปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารขึ้นอย่างจริงจัง การมาพบกับสำนักข่าวอิศราก็เป็นขั้นหนึ่งของการที่กองทัพจะเปิดกว้างรับฟังความคิดจากคนนอก ต่อไปเราจะไปคุยกับฝ่ายโทรทัศน์ จากนั้นก็จะขอให้ทางกระทรวงการต่างประเทศขอเวลาทูตจากประเทศต่างๆ เพื่อไปชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้" พ.อ.อัครกล่าว
พ.อ. อัครกล่าวด้วยว่าเหตุผลที่ตนประเมินว่าสถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ดีขึ้น
เพราะตนไม่ได้นับเรื่องการเกิดเหตุรายวันแต่ดูจากการที่ทางการเห็นว่า ใครเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบชัดเจนขึ้น เจ้าหน้าที่มีความพร้อมมากขึ้น ประชาชนมีความศรัทธาเชื่อมั่นกับรัฐมากขึ้น พร้อมทั้งยังบอกว่าตอนนี้มีพื้นที่ที่ประชาชนเชื่อถือทางการมากขึ้นๆ บางแห่งไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นติดต่อกัน 9 เดือนแล้ว
ด้านนายประสงค์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันอิศราฯบอกว่าการพบปะกันเป็นเรื่องน่ายินดี
ที่น่าสนใจคือ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบมาพูดคุยกันทำให้รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น สถาบันฯก็ต้องการเห็นความไม่สงบยุติเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานข่าวของ สถาบันฯยึดหลักความถูกต้อง และ ความจริง คือ รายงานข่าวตามความเป็นจริงไม่บิดเบือนตามหลักการการสื่อสารมวลชน