เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 พ.ค. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT
โดยได้เริ่มรายการด้วยการตอบคำถามเรื่องแนวคิดตั้งบริษัทร่วมทุนกับต่างชาติ ทำนาปลูกข้าวเพื่อส่งนอกโดยเฉพาะ ที่กลายเป็นข้อวิจารณ์มากมายตามมา โดยกล่าวว่า ที่จริง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พาคนต่างชาติไปเยี่ยมโรงเรียนสอนการทำนา ชมการสาธิตการทำนาที่ จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากจะมีการเปิดการขายข้าวทางตะวันออกกลาง แต่ข่าวกลับออกมาว่าในพรรคการเมือง นี้ไม่ถูกกัน เพราะอดีตนายกฯเข้ามายุ่ง ข่าวยังไปไกลถึงขั้นที่ว่าอดีตนายกฯ จะไปซื้อที่ดินปลูกข้าวทำอุตสาหกรรมข้าว จนจะกลายเป็นการขายชาติกันไปเลย ทั้งที่ข่าวออกแค่ชั่วข้ามคืน แต่สุดท้ายต่างก็เข้าใจแล้วว่าไม่ใช่อย่างนั้น จึงขอให้พิจารณาให้ดีเมื่อจะเสพข่าว เรื่องมันมีเท่านี้ แค่เรื่องที่ว่าจะขายข้าวแล้วพาคนมาชมการสาธิต ไม่ได้ปิดบัง และคนพวกนั้นก็ไม่ใช่มีหน้าตาจะมาทำนาอะไร แต่ก็เคราะห์ดีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาบอกว่าท่านเข้าใจทุกอย่าง
นายสมัครยังตอบคำถามกรณีที่ไปปกป้องนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่คนเดียวทั้งที่คนขับไล่กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า จะให้ทำอย่างไร
บ้านเมืองเรามีหลักเกณฑ์ มีขื่อมีแป ทำไมถึงบอกว่ามีคนทั้งบ้านทั้งเมืองจะขับไล่ เพราะที่จริงมีคนแค่พวกหนึ่งเท่านั้นยืนยันได้ และในฐานะที่เป็นหัวหน้าก็ได้อ่าน เอกสารของนายจักรภพ และเห็นว่าต้องให้ตำรวจวินิจฉัย ยิ่งไปถึงอัยการและศาลได้ยิ่งดี แต่พรรคประชาธิปัตย์ส่งเอกสารมา ก็ไม่อยากจะย้อนถามว่าคุณเป็นศาลหรือ ที่จะให้จัดการเลย มันอะไรกันนักหนา ช่องทางเขามีกันอยู่ก็ให้เขาทำไป ส่วนนายจักรภพเขาจะพิจารณาตัวเองถ้าเกิดรำคาญ ก็เป็นเรื่องของเขา น่าจะปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน เรื่องนายจักรภพ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องให้ความเป็นธรรม พรรคการเมืองหรือไม่ฝ่ายค้าน ไม่ใช่ ศาล ถ้ามายื่นแล้วปลด ยื่นอีกให้ปลดอีก ถ้าอย่างนั้นมายื่น 35 วัน คณะรัฐมนตรีก็หมด ได้อ่านเอกสารคำกล่าวของนายจักรภพที่ถอดมาเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษแล้ว แต่ก็เห็นว่าเรื่องนี้ต้องให้ตำรวจดำเนินการ ไม่ใช่ว่าพรรคการเมืองเก่าแก่มายื่นแล้วต้องกลัวเกรง ไม่กลัวและไม่เกรงด้วยถ้าทำแบบนี้
“รุนแรงมากเลย ก็เหมือนกลุ่มที่ไปยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็โดนด่ารุนแรง เพราะพรรคประชาธิปัตย์มาออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ทำไมพูดจาว่ากล่าวกันว่า เลวทรามต่ำช้ากันขนาดนี้ ตอนเขาฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มัวไปมุดหัวอยู่ไหน ไม่มีใครไปพูดจาว่ากล่าวเลย เห็นไปยืนเอามือกุมๆอยู่กับเขา แล้วคราวนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นสิทธิของเขา ยังไม่ทันทำอะไร ก็มาออกเป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 1 อย่างกับคณะปฏิวัติ พออ่านแล้วก็เห็นว่าพรรคการเมืองนี้เป็นเอามาก แต่ก่อนก็พูดจาว่ามันต้องแก้ ตอนนี้มาบอกไม่แก้ ไม่แก้ก็ไม่แก้ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องดำเนินการ เพราะถ้ามีการยื่นเข้ามาว่าต้องแก้ ก็ต้องดำเนินการ” นายสมัครกล่าว