2กลุ่มปะทะเดือด เผชิญหน้า เคลื่อนบุกทำเนียบ

หลังจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยประโคมเรียกคนมาตลอดสัปดาห์ ให้ออกมาชุมนุมใหญ่ เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยนัดดีเดย์ ในช่วงบ่าย วันที่ 25 พ.ค. นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมมวลชนที่ให้การสนับสนุน

ได้นำ รถบรรทุก 6 ล้อ ซึ่งดัดแปลงเป็นเวทีเคลื่อนที่ 2 คัน ติดป้าย ข้อความว่า “รักชาติไม่แก้รัฐธรรมนูญ” และ “รัฐโจรแก้ รธน. เพื่อนักการเมืองโจร” ทำการปิดกั้นถนนราชดำเนินฝั่งขาเข้า พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อยึดพื้นที่ ตั้งแต่ถนนดินสอ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปจดสะพานผ่านฟ้า เป็น พื้นที่จัดปราศรัย ก่อนจัดตั้งเวทีปราศรัยบริเวณฝั่งถนนราชดำเนินขาเข้า ก่อนถึงสำนักงานสภาทนายความ หันหลัง ให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปสะพานผ่านฟ้า เยื้อง กับร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง โดยมีเหล่าพันธมิตรจากจังหวัดต่างๆ อาทิ ชลบุรี เพชรบุรี กำแพงเพชร บุรีรัมย์ ภูเก็ต ฯลฯ เดินทางเข้ามาสมทบ ท่ามกลางการรักษาความ ปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลกว่า 1 พันนาย ทั้งใน และนอกเครื่องแบบ ที่กระจายกันป้องกันเหตุทั่วบริเวณ

ส่วนบริเวณฟุตปาทฝั่งถนนราชดำเนินขาเข้า หน้าสภาทนายความ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังได้ตั้งเต็นท์พร้อมนำ เครื่องถ่ายเอกสารมาชักชวนประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้

ร่วมกันเข้าชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่น ญัตติสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ให้การสนับสนุน ต่างนำบัตรประชาชน มาถ่ายเอกสาร และร่วมลงชื่อถอดถอนกันอย่างคึกคัก นอก จากนี้ ยังมีการนำเสื้อยามเฝ้าแผ่นดิน ผ้าพันคอกู้ชาติ และ เสื้อยืดที่มีข้อความหยุดทรราชล้มรัฐธรรมนูญ มาจำหน่าย ให้กับเหล่าผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันบริเวณลานอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย แนวร่วมพันธมิตรกลุ่มหนึ่ง นำโดยนาย สมัยศึก ศรศิริ ชาว กทม.วัย 76 ปี ได้นำภาพถ่าย พ.ต.ท. ทักษิณมาทำพิธีเผาพริกเกลือสาปแช่ง ท่ามกลางเหล่าผู้ สนับสนุนโห่ร้องด้วยความสะใจ จากนั้นเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีแนวร่วม คนสำคัญๆ อาทิ นายไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ นายสำราญ รอดเพชร ขึ้นเวทีกล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างดุเดือด

ขณะเดียวกัน กลุ่มมวลชนที่อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มพลังประชาธิปไตยต่อต้านพันธมิตร” “กลุ่มธรรมาธิปไตย” และ “กลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ”

ก็รวมตัวกันตั้งเวทีปราศรัยบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เชิญชวนประชาชนราว 300 คน มารวมตัวกันก่อนเคลื่อนขบวนมายังหน้าบริษัทธนบุรีประกอบยนต์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินฝั่งขาออก พร้อมปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นพวกทำลายชาติ จากนั้นมีการเผาหุ่นแกนนำพันธมิตรฯ และนำมากระทืบด้วยความโกรธแค้น ทั้งนี้ แนวร่วมบางส่วน ยังประกาศกร้าวว่า หากพันธมิตรฯไม่เลิกชุมนุมจะฆ่าให้ หมด ต่อมา สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯเคลื่อนขบวนมายังฝั่งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำท่าเหมือนกับจะบุกเข้าไปในบริเวณการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมีการนำผ้าพันคอกู้ชาติมาพันที่เท้า และชูใส่กลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อเป็นการยั่วยุ ขณะที่มวลชนผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ ก็ฮือกันมามุงดูด้วยความโกรธแค้น ทำให้ทั้งสองฝ่ายตั้งกลุ่มมาประจันหน้าโห่ร้อง และด่าทอ กัน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ตั้งแถวเรียง สกัดไว้ตรงกึ่งกลาง เพื่อกันไม่ให้มีการปะทะ
 
กระทั่งเวลา 16.00 น. ได้มีรถบรรทุกของกลุ่มพันธมิตรติดหมายเลข 3 พร้อมติดป้ายข้อความต่อต้านการแก้ รัฐธรรมนูญ

แล่นผ่านเข้ามาในบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มต้านพันธมิตรฯที่รวมตัวกันอยู่หน้าธนบุรีประกอบยนต์ จึงพากันฮือเข้าไปที่รถ ดึงป้ายผ้าดังกล่าวจนฉีกขาด ซึ่งในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีกลุ่มสนับสนุนพันธมิตรฯที่นั่งรถมาด้วย กระโดดลงมาปรี่เข้าไปตอบโต้ จนทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการชกต่อยชุลมุนกลางถนนวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้น มีการ ระดมขว้างปาขวดนํ้าใส่กัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ และแยกทั้งสองกลุ่มออกจากกัน แต่ยังมีการตั้งกลุ่มมวลชนมาประจันหน้ากันและด่าทอกันอย่างไม่ลดละ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์