ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.45 น. นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. ว่า
การแปลคำบรรยายที่ตนไปพูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศนั้นลงตัวแล้ว กำลังจะเอาฉบับจริงมาแทนใบปลิว ที่ผ่านมาตนถูกโจมตีด้วยใบปลิวที่คนแปลไม่กล้าลงชื่อเป็นการแปลความหมายที่ผิด หาเรื่อง จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อถามถึงกรณี การไปพูดกับคนไทยในแอลเอเมื่อปี 2550 นายจักรภพ กล่าวว่า เป็นเรื่องเก่า เป็นช่วงเดียวกับที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไปพูดที่แอลเอเช่นเดียวกัน ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า จบเรื่องตน เดี๋ยวก็มีเรื่อง รมต. คนอื่น เรื่องนายกฯ ซึ่งสังคมเริ่มต่อภาพเห็นแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การหาข้อเท็จจริงอะไร เป็นเพียงการไล่ล่าเพื่อจะหาจุดอ่อนของรัฐบาลเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีระบุว่าต้องต่อสู้กับคนที่สูงมากหมายความว่าอย่างไร
นายจักรภพ กล่าวว่า คือระบอบอมาตยาธิปไตย คือ คนที่มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังคนต่าง ๆ และในที่สุดต้องออกมายึดอำนาจ คนเหล่านี้สูงกว่าในฐานะการเงิน การเมือง เพื่อไปซ่อนอยู่ข้างหลังมีทั้งนักธุรกิจ ชาวต่างชาติ เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่มีเสียงสะท้อนจากทหารในเชิงไม่ดี นายจักรภพ กล่าวว่า ทหารก็ได้ข้อมูลผิด เพราะมีคนเอาคำแปลผิดไปแจกจ่ายในหมู่ทหาร มีภรรยาทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย แต่ไว้รอเอกสารจริงออกมาตนเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจว่าความจริงคืออะไร
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีภรรยาทหารเกี่ยวข้องด้วยนั้นเกี่ยวข้องอย่างไร
นายจักรภพ กล่าวว่า เกี่ยวข้องกับการแปลและแจกจ่ายเอกสารให้กับผู้นำกองทัพและกองพันต่าง ๆ ซึ่งขอให้รู้ว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะคิดว่าคนที่นำไป แจกจ่ายก็คงไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพียงแต่เห็นอะไร ไม่ชอบมาพากลก็อยากให้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้อาจเป็นชนวนให้ถูกปรับออกจาก ครม.
นายจักรภพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของนายกฯเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่ตนจะพูดได้ อย่างไรก็ตาม นายกฯ ทราบดี ดังนั้นคนที่จะให้คำตอบในขั้นตอนต่อไปได้คือนายกฯ เมื่อถามว่า จะมีการทำความเข้าใจภายในพรรคพลังประชาชนหรือไม่เพราะยังมีสมาชิกหลายคนติดใจเรื่องนี้อยู่ นายจักรภพ กล่าวว่า มีเพียง 1-2 คนเท่านั้น ซึ่งเมื่อพลั้งปากไปแล้ว เขาก็รู้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ไม่ใช่ รมต. คนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องการมุ่งโจมตีทั้งพรรค ส่วนการพบกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯนั้นเป็นการพบโดยบังเอิญ และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้