วันเดียวกัน นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ
ได้เดินทางมาติดตามการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 ที่นครพนม ที่รัฐบาลได้อนุมัติงบแล้วประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยจะมีการวางศิลาฤกษ์ในเดือน มิ.ย.นี้ จากนั้นได้เดินทางไปทำบุญครบรอบวันคล้ายวันเกิดของโฮจิมินห์ อดีตผู้นำเวียดนาม ที่หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม และเป็นประธานเปิดพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าฯหลังเก่า ที่เคยเป็นอดีตที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จเยือน จ.นครพนม เมื่อปี 2498
นายจักรภพกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูงดังที่ถูกกล่าวหาเลย
และไม่เคยอยู่ในความคิด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการที่มีบุคคลต้องการจะทำลายรัฐบาล เพราะไม่มีเรื่องอื่นแล้ว จะนำเรื่องของตนมาเป็นประเด็น โดยกำลังเร่งแปลเอกสารและส่งให้กับทางตำรวจในวันที่ 22 พ.ค.นี้ จากนั้นจะดำเนินการกับบุคคลที่กล่าวหาให้ถึงที่สุด โดยที่กรณีดังกล่าวไม่รู้สึกหนักใจเลย เพราะมีความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง
นายจักรภพกล่าวอีกว่า ส่วนการที่จะมีการปรับ ครม.นั้น จะปรับเปลี่ยนอะไรถือเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิตแจกหนังสือเปิดโปงขบวน การล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตน แต่อาจเกิดความเข้าใจผิดในการตีความ เพราะมีขบวนการที่ตั้งใจจะเสี้ยมให้คนชนกัน สร้างความแตกแยกให้ บ้านเมือง วันนี้ถือว่าโชคดีที่ได้พบท่าน มีการพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยท่านก็ได้รับทราบเป็นที่เข้าใจว่าเป็นการยุยงทำลายรัฐบาล ทุกอย่างที่ พล.อ.ชวลิตพูด ทุกคนต้องรับฟังมาปฏิบัติ เพราะถือเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในประเทศ
พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นกับนายจักรภพ มั่นใจว่าไม่มีทางเป็นไปได้
เชื่อมั่นว่าคงไม่คิดที่จะหมิ่นเบื้องสูงแน่นอน แต่เป็นเรื่องการเมืองที่นำมาจุดประกาย ให้เกิดการแตกแยกทางการเมือง อยากให้ทุกคนหันมาร่วมมือกันดีกว่า ส่วนเรื่องการทาบทามให้เป็นนายกฯแทนนายสมัคร สุนทรเวช นั้นไม่มี เพราะอายุมากแล้วเป็นไม่ได้แล้ว สำหรับการแจกเอกสารเรื่องขบวนการล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า ไม่เกี่ยวข้องกับใคร เพียงอยากให้ทุกคนรับรู้ถึงการต่อสู้ในอดีต ที่ได้มาของประชาธิปไตยของประเทศไทยเท่านั้น