วันที่ 8 พ.ค. ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาตกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์
ในฐานะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่างนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน กับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯคนที่ 2 เป็นประธานกรรมการ เผยว่า คณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงจากการให้ถ้อยคำของคู่กรณี พยานบุคคล และพยานเอกสารแล้ว สรุปว่า
1.เชื่อได้ว่านายการุณทำร้ายนายสมเกียรติจริง
2.นายการุณใช้ถ้อยคำที่หยาบคายว่ากล่าวนายสมเกียรติจริง รวมทั้งมีการโต้เถียงระหว่างนายการุณและนายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่เข้ามาห้ามปรามจริง
"ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่านายการุณมีความผิดจริง โดยประธานและคณะกรรมการพิจารณาทุกคนเซ็นชื่อรับรอง ขาดเพียงแต่ตัวแทนจากพรรคพลังประชาชนที่ไม่ยอมลงชื่อ คือนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.สมุทรปราการ หลังจากนี้พ.อ.อภิวันท์จะทำหนังสือรายงานต่อประธานสภา เพื่อแจ้งให้สมาชิกสภารับทราบ" นายพิเชษฐกล่าว และว่าส่วนจะมีบทลงโทษกรณีขัดจริยธรรมและข้อบังคับสภาหรือไม่ เป็นหน้าที่สภาจะพิจารณา
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวว่า วิปฝ่ายค้านเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว
หลังจากนายสมเกียรติแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พ.อ.อภิวันท์ได้โทรศัพท์เชิญนายสมเกียรติไปพบในช่วงเย็น เมื่อนายสมเกียรติไปถึงห้องพบว่ามีนายการุณรออยู่แล้ว พ.อ.อภิวันท์พยายามไกล่เกลี่ยให้ยอมความ แต่นายสมเกียรติไม่ยอม โดยแจ้งว่ากรณีที่เกิดขึ้นมีหลักฐานการถูกทำร้ายชัดเจน และถือเป็นการคุกคามการทำงานของส.ส.
นายสาทิตย์กล่าวว่า เมื่อสรุปผลการสอบสวนในวันนี้ วิปจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการเปิดเผยผลการสอบสวนต่อสภาและประชาชน
ขอให้พรรคพลังประชาชนและนายการุณรับผิดชอบ เพราะได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลาออกจากการเป็นส.ส.หากผลการสอบมีความผิด ด้านนายการุณ โหสกุล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ยังไม่ทราบผลสอบดังกล่าว เมื่อถามว่าหากผิดจริงจะลาออกจากส.ส.ตามที่เคยพูดไว้หรือไม่ นายการุณกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า "ผมไม่ทราบข่าว ผมไม่คุยกับคุณ" จากนั้นได้ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที