เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
ทำพิธีต้อนรับ พล.อ.เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีพม่า และคณะ เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของรัฐบาลไทย โดยนายสมัครนำ พล.อ.เต็ง เส่ง ตรวจแถว ทหารกองเกียรติยศ จากนั้นได้ร่วมหารือข้อราชการแบบทวิภาคี และร่วมหารือแบบเต็มคณะ ต่อมาเวลา 17.30 น. นายสมัครนำ พล.อ.เต็ง เส่ง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และเวลา 19.00 น. นายสมัครเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ พล.อ.เต็ง เส่ง และคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับผลการหารือระหว่างนายกฯไทยกับนายกฯพม่านั้น นายสมัครให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือถึงความร่วมมือการพัฒนาของ 2 ประเทศ
ต่อไปนี้ไทยจะลงทุนร่วมกับพม่า จีน ลาว ในโครงการพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการท่าเรือ น้ำลึกทวาย โดยวันที่ 15 พ.ค. จะเดินทางไปพบกับนายหู จิ่น เทา ประธานาธิบดีจีน เพื่อหารือเรื่องการเชื่อมเส้นทางรถไฟจากคุนหมิงมาที่หลวงพระบาง เวียงจันทน์ ต่อไปยัง จ.กาญจนบุรี สิ้นสุดที่ท่าเรือน้ำลึกทวาย และพม่ายังมีโครงการเปิดนิคมอุตสาหกรรม โครงการปลูกพืชเมืองหนาว ทดแทนการปลูกแทนฝิ่น และได้หารือเรื่องการปลูกข้าว โดยเสนอให้เวียดนาม ไทย ลาว กัมพูชา และพม่า ตกลงจับมือกันในการตั้งราคาร่วมกัน แต่คงไม่ไปรวมกลุ่มแบบประเทศโอเปค เพราะจะน่าเกลียดเกินไป
ประชาธิปไตย แม้ประชาธิปไตยจะไม่เต็มใบ แต่จะมีการลงประชามติ
ซึ่งคนที่เกลียดก็จะไม่รับประชามติ โดยจะใช้เวลา 2 ปีถึงจัดให้มีการเลือกตั้ง เพราะต้องใช้เวลาในการตั้งพรรคการเมือง ต่อไปทหารจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ทั้งนี้ในเดือน ธ.ค.จะนำเรื่องนี้มาหารืออีกครั้งในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อถามว่า พม่ายืนยันหรือไม่ว่าจะปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี นายสมัครตอบว่า พม่าไม่ได้ปล่อย แต่บอกว่าจะเอาไว้บนหิ้ง เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไร ต่างชาติไม่ยอมรับเรื่องนี้ แต่เราเห็นว่าถ้าจะเอาไว้บนหิ้งก็ไม่เห็นจะเป็นไร รัฐธรรมนูญพม่าก็ได้เขียนกันไว้แล้วว่า ห้ามคนที่มีสามีต่างชาติลงสมัครรับเลือกตั้ง นี่คือประชาธิปไตยแบบครึ่งใบ
ภายหลังเปิดเผยผลการหารือระหว่างนายกฯสองประเทศแล้ว นายสมัครกล่าวว่า จะงดให้สัมภาษณ์สื่อในวันอังคารและวันศุกร์แล้ว
เพราะโดนต่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย พูดจาไม่สุภาพ จึงเห็นว่าวิธีที่จะไม่มีคำเหล่านี้คือไม่พูด แล้วให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นคนแถลง แต่ก็จะให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องๆไป เช่น กรณีการหารือข้อราชการกับนายกฯพม่าก็จะให้ข่าวเอง “คนใหญ่ๆเขาว่ารุนแรงเลยว่าเกิดมาไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีคนไหนพูดจาหยาบคาย ส่วนรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ยังมีอยู่ แต่เขาก็บอกว่าให้ค่อยๆพูด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า อย่างนี้จะยุ่งหรือไม่ เพราะต้องตามไปสัมภาษณ์
นายสมัครกล่าวว่า ก็คงยุ่งเหมือนกัน วันนี้ตนปรารภและลองโยนหินถามทางดูก่อนว่าจะว่ากันอย่างไร เขาต่อว่า 2 วันที่ให้สัมภาษณ์สื่อ พูดพร่ำทำเพลง พูดจาหยาบคาย ตนเลยถามว่า เช่นคำว่าอะไรบ้าง เขาบอกว่าเช่น เฮงซวย ทำหอกอะไร และกระเหี้ยนกระหือรือ ดังนั้นจะไปหารือกับราชบัณฑิตยสถาน เพราะคำว่า กระเหี้ยนกระหือรือ ไม่ใช่คำหยาบ