ไม่ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 9 แต่ได้มอบหมายให้ นายอารีย์ วงษ์อารยะ อดีต รมว.มหาดไทย มาเป็นประธานแทน ซึ่งมีรายงานข่าวว่า พล.อ.เปรม ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายหลังจากที่มีกลุ่มคนไปโจมตีด้วยถ้อยคำที่รุนแรงที่บ้านพักเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ นายอารีย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานเปิดโครงการดังกล่าว แทน พล.อ.เปรม ว่า
พล.อ.เปรม ติดภารกิจ ซึ่งปกติ พล.อ.เปรม จะเป็นประธานเปิด และ ปิดทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ พล.อ.เปรม ติดภารกิจสำคัญ อีกทั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ในฐานะที่ตนเป็นคนที่ 3 ก็ต้องมาทำหน้าที่แทน ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราทำมารุ่นนี้รุ่นที่ 9 แล้ว ดังนั้นประสบการณ์ของเราเราสามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.เปรม ไม่มาเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับ พล.อ.เปรม หรือไม่
เพราะเมื่อวันที่ 25 เม.ย.มีกลุ่มคนไปกล่าวโจมตีที่หน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ นายอารีย์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่เกี่ยวกัน ต้องเรียนว่า โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นโครงการที่ พล.อ.เปรม โดยมูลนิธิทั้ง 3 มูลนิธิ คือมูลนิธิรักเมืองไทย มูลนิธิรัฐบุรุษ และ มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยตรง ไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง เราทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งนี้เราได้ปวารณาว่าเราจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน อะไรก็แล้วแต่ที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้เราจะทำ ดังนั้นโครงการดังกล่าวที่ทำมาถึง 9 รุ่น มีเยาวชนเข้าร่วมกว่า 1,000 คน ประชาชนต่างให้การยอมรับเรียบร้อยดี โดยเฉพาะประชาชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีปัญหาอะไร พล.อ.เปรม ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว.