กก.สอบเสรีปมใหม่ ไม่บังควร ช่วงประทับศิริราช
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง กก.สอบเสรีปมใหม่ ไม่บังควร ช่วงประทับศิริราช
ประธานสอบวินัยร้ายแรง "เสรีพิศุทธ์" เรียกสอบพยาน 3 ผู้บัญชาการ
เผยมีประเด็นใหม่ไม่มาถวายความปลอดภัย"ในหลวง" เมื่อครั้งเสด็จฯออกจาก ร.พ.ศิริราชเมื่อ 7 พ.ย.50 "อัศวิน ขวัญเมือง" ผบช.น. ให้การยัน "เสรีพิศุทธ์" มาแค่ครั้งเดียวช่วงที่ในหลวงทรงพระประชวรประทับที่ศิริราช วันเสด็จฯกลับก็โทร.แจ้งนายเวรแล้ว แต่บอกว่าไม่มา นอกจากนี้พิธีสวนสนามวันราชวัลลภก็ไม่ไปร่วมพิธีด้วย ชี้อาจเสนอให้นายกฯสอบวินัยร้ายแรงเพิ่มอีกกระทง อัยการสูงสุดระบุสอบปากคำพยานไปแล้ว 15 ปาก คดีคืบหน้าไปมาก คาดจะสรุปผลสอบแล้วเรียก"เสรีพิศุทธ์" มารับทราบข้อกล่าวหาได้เดือนพ.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เม.ย. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผบ.ตร.
ตามที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตามหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 5 มี.ค.2551 ให้สอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีการทำสัญญาเช่ารถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมูลค่า 9,800 ล้านบาท การใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจโดยไม่มีกฎหมายรองรับ โดยนายชัยเกษมเรียกประชุมคณะกรรมการทั้งคณะ เพื่อสอบข้อมูลพยานบุคคล เป็นนายตำรวจระดับผู้บัญชาการตำรวจ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นนายชัยเกษมกล่าวว่า ในช่วงเช้าคณะกรรม การได้เชิญพล.ต.ท.บรรจง ตันศยานนท์ ผบช.ก.ตร. มาให้ข้อมูลจนเสร็จสิ้นแล้ว
ในช่วงบ่ายคณะกรรมการได้เชิญพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. และพล.ต.ท. สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.สทส. มาให้ข้อมูลต่อ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าคณะกรรมการสอบถามข้อมูลพยานในประเด็นใด เป็นความลับในสำนวนการสอบสวนเพราะเกี่ยวกับเรื่องโทษทางวินัยร้ายแรง ที่ผ่านมาคณะกรรมการได้สอบปากคำพยานบุคคลไปแล้วจำนวน 15 ปาก ประกอบกับเอกสารพยานหลักฐานที่ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก
อัยการสูงสุดกล่าวต่อไปว่า ส่วนจะต้องเชิญพยานบุคคลใดมาให้ข้อมูลและมีจำนวนอีกกี่ปากนั้น ยังไม่ทราบ
ขึ้นอยู่กับว่าพยานให้ข้อมูลพาดพิงไปถึงบุคคลใดบ้าง ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเรียกมาสอบถามข้อมูลหรือไม่ ถ้าหากมีความจำเป็นก็ต้องเรียกมาสอบ โดยคณะกรรมการพยายามเร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้นอย่างเร็วที่สุดตามกรอบกำหนดเวลา โดยเพิ่มจำนวนการประชุมจากสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
"จากการสอบพยานบุคคล คณะกรรมการยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง หรือให้น้ำหนักประเด็นใดเป็นพิเศษ โดยคณะกรรมการจะสอบสวนทุกประเด็นที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วสรุปสำนวน จึงจะทราบว่ามีประเด็นใดบ้างที่มีมูลความผิดหรือไม่ ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการจะเรียกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ผู้ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหาได้ภายในเดือนพ.ค.นี้" นายชัยเกษมกล่าว