ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค
กล่าวถึงกรณีนายสมัคร ระบุว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยอ้างว่าหากมีการยุบพรรคก็จะมีการยุบสภา ว่า การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ แต่ไม่ควรนำเรื่องการพิจารณายุบพรรคมาเป็นประเด็นนำไปสู่การยุบสภา เพราะการยุบพรรคถ้าเกิดขึ้นจริงไม่น่าจะมีผลหรือมีส่วนใดๆ เกี่ยวข้องกับการยุบสภา และ ส.ส.ที่สังกัดพรรคที่ถูกยุบก็สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ใน 60 วัน
นายองอาจ กล่าวว่า การยุบพรรคจะมีผลกระทบต่อกรรมการบริหารพรรคจำนวนหนึ่งเท่านั้น
ไม่ใช่มากจนถึงขนาดประชุมสภาต่อไปไม่ได้ และสามารถจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ โครงสร้างของรัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงไม่จำเป็นถึงขั้นยุบสภา เพราะสภาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการทำความผิดถึงขั้นยุบพรรค นายกฯ ไม่ควรใช้การยุบสภามาข่มขู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายที่จะดำเนินต่อไป และไม่ควรใช้การยุบสภามาข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคประชาธิปัตย์ เราไม่วิตกกังวลและพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
ส่วนแนวความคิดการตั้งส.ส.ร.ภาค 3 ในการแก้รัฐธรรมนูญนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตรงกับแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ควรปิดโอกาสให้ประชาชนหรือองค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำให้เกิดความเข้าใจและมีความคิดเห็นร่วมกัน