เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พาดพิงถึงนายระลึก หลีกภัย น้องชาย ฉ้อราษฎร์บังหลวงว่า เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะนายระลึกไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่เป็นพนักงานธนาคาร เมื่อทำผิดพลาดก็ถูกธนาคารเล่นงานไปแล้ว แต่นายสมัครก็หยิบประเด็นมาพาดพิงผิดๆ ตนเห็นว่าไม่เป็นธรรมที่จะใช้สื่อของรัฐในการกล่าวหาคนอื่น ขณะนี้นายระลึกก็อยู่เงียบๆ มีหน้าที่ดูแลนางถ้วน หลีกภัย มารดา ที่บ้าน แทนพี่น้องคนอื่นที่ต้องทำงาน
นายชวนกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้นายสมัครเกิดความเข้าใจผิด จนออกมาพาดพิงถึงน้องชายตน
เป็นเพราะมีสื่อมวลชนมาขอสัมภาษณ์เป็นการภายในให้ วิเคราะห์การเมืองว่าเป็นอย่างไร ตนก็ไม่ได้พาดพิงว่านายสมัครไม่มีความเหมาะสมเป็นนายกฯ เพียงแต่ วิเคราะห์ถึงความไม่แน่นอนทางการเมือง 3 เรื่อง โดย 2 เรื่องแรกเป็นเรื่องของนายสมัครโดยตรง คือ คดีหมิ่นประมาทที่ตอนนี้อยู่ในชั้นอุทธรณ์ ถ้ามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ความเป็นนายกฯก็จะจบลง รัฐบาลจะล้มทันที และหากคดีนี้จะจบลงได้ก็ต่อเมื่อผู้เสียหายถอนฟ้อง หรือศาลตัดสินกลับ แต่ในกรณีถอนฟ้องก็ทราบมาว่าได้มีการให้พระไปคุยกับนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. โจทก์ ซึ่งก็ยังเสี่ยงอยู่
เรื่องที่สอง คือเรื่องรถดับเพลิง คตส.ชี้มูลไปแล้ว แต่ยังไม่ขึ้นศาล
กรณีนี้ถ้าผิดจริงจะหนักยิ่งกว่าคดีหมิ่นประมาท เรื่องที่สามคือเรื่องยุบพรรค ถ้าพรรคถูกยุบไปก็จะเป็นเช่นเดียวกับการยุบพรรคไทยรักไทย ต้องเปลี่ยนรัฐบาล เลือกตั้งกันใหม่ในบางตำแหน่ง เหล่านี้คือสิ่งที่ตนวิเคราะห์ ในพรรคประชาธิปัตย์พูดกันว่าพลังประชาชนกล้าที่เสนอชื่อนายกฯ และประธานสภาฯที่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าวันข้างหน้าเกิดกรณีเหล่านี้ขึ้นจริงใครจะรับผิดชอบ ตนพูดเท่านี้และจำคำพูดตัวเองได้ทุกคำ คำพูดทุกคำพูดพูดอย่างระมัดระวัง ไม่พูดเกินความจริง ไม่ได้พูดว่านายสมัครไม่เหมาะสม หรือเป็นคนไม่ดี และไม่มีสิทธิจะว่าท่านด้วย เพราะเมื่อชนะเลือกตั้งท่านก็มีสิทธิเป็นนายกฯ แต่ความเหมาะสมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง