เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 เม.ย. นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ตอนหนึ่งว่า
สัปดาห์ที่ผ่านมาตนไปตรวจเยี่ยมค่ายทหารเพื่อตรวจดูทหารที่เพิ่งเกณฑ์เข้าไป การไปครั้งนี้ไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่แจ้งให้ ผบ.พันซึ่งรู้จักกันทราบก่อนเพียง 15 นาที เพื่อไปขอดูโรงฝึก โรงนอนและโรงเลี้ยง เพื่อดูว่ากินอยู่หลับนอนอย่างไร ปรากฏว่าทุกอย่างเรียบร้อย สะอาดสะอ้านดี แม้จะอยู่ในกรุงเทพฯ และนอนตึกก็ยังต้องกางมุ้ง เพราะการติดมุ้งลวดกลายเป็นที่ขังยุงมากกว่าการป้องกัน จึงต้องกางมุ้งอีกชั้นหนึ่ง ทหารที่อยู่ในพื้นที่ชนบทก็ต้องกางมุ้งเช่นกัน
การไปดูครั้งนี้ได้รับทราบปัญหาและช่วยกันแก้ไขไปแล้ว โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
ครั้งแรกตั้งใจจะไปไม่นานแต่อยู่เกือบชั่วโมง ตอนหลังมีการรายงานไปตามสายบังคับบัญชาระดับสูง แม่ทัพภาค 1 ก็มา ใครก็มาเพราะตนเป็น รมว.กลาโหมด้วย ต่อไปตนจะไปดูในพื้นที่ต่างจังหวัดด้วยว่าแตกต่างจากกรุงเทพฯ อย่างไร ยืนยันว่าทหารที่ผ่านการฝึกถือว่าไปดี กลับมาก็จะเป็นคนมีระเบียบวินัย กินดีอยู่ดี เรียบร้อย
"อยากเรียนให้พ่อแม่พี่น้องที่ลูกหลานเข้าไปฝึกทหาร สถิติในระยะหลังไม่มีใครหนีทหารเลย เพราะการฝึกช่วง 3 เดือนแรกจะฝึกให้ทหารมีความรักกองทัพให้เข้าใจทั้งหมด จากนั้นจึงจะฝึกเพื่อแยกกองร้อย ระบบทหารถือว่าดีมาก เมื่อผ่านการฝึกทหารก็สามารถกลับไปเยี่ยมบ้านได้ครั้งละหลายวัน โดยแต่งเครื่องแบบทหารกลับไปเยี่ยมบ้าน"
"แต่จากนี้ไปเราจะไม่เห็นทหารแต่งชุดลายพรางไปเดินเตร็ดเตร่ตามถนนหนทาง ผมแจ้งไปแล้วว่าพวกที่แต่งชุดลายพรางนั้นต้องเปลี่ยน ขณะนี้กองทัพอยู่ระหว่างดำเนินการว่าใครมีชุดลายพรางผมให้ไปย้อมสีดำทั้งหมด ซื้อมาแล้วก็ให้ไปย้อมดำเสียรู้แล้วรู้รอดไป ไม่เช่นนั้นทหารเขาเดือดร้อน คนใส่ชุดพรางไปทำอะไรเสียหายก็นึกกันว่าทหารทำ ส่วนใหญ่มาจากตลาดโรงเกลือทั้งนั้น เอาชุดพรางมาขาย หากเป็นเรื่องที่พ่อแม่ซึ่งเป็นทหารเสียชีวิตแล้วลูกเล็กๆ จะแต่งกายเลียนแบบทหารก็ไม่มีปัญหา แต่คนโตๆ ไปซื้อชุดพรางมาใส่มันหาเรื่องแท้ๆ"