“ทักษิณ” สัมภาษณ์สื่อครั้งแรก ไม่บังคับลูกในสนามการเมือง!

วันที่ 15 มี.ค. ระหว่างที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ได้เดินทางมาไหว้สุสาน พ่อเลิศ แม่ยินดี ชินวัตร บิดาและมารดา ที่ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

ระหว่างรอฤกษ์พิธีไหว้บรรพบุรุษ เวลา 13.00 น. นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงการมาไหว้อัฐิพ่อและแม่ เป็นภาษาเหนือ พร้อมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตนมีความรู้สึกที่ดีกับพ่อแม่ ซึ่งตนไม่เคยมาที่นี่เลย เพราะสร้างระหว่างที่ตนอยู่เมืองนอก โดยสร้างมาแล้วประมาณ 3 ปีกว่า และหลังจากนี้จะมาทุกปีแน่นอน โดยมีลูกหลานมาพร้อมหน้ากันหมด

นายทักษิณยังบอกอีกว่า ซึ่งผลสุดท้ายความสุขอยู่ที่ครอบครัว คนทุกคนถ้าเข้าใจโลก ก็จะ Happinees is at home (ความสุขอยู่ที่บ้าน) ที่อื่นอาจจะเป็นสิ่งสมมุติ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ Happinees is at home

ชี้แจงอาการป่วย

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลายคนบอกว่ามาถึงเชียงใหม่แล้วท่านทักษิณหน้าตายิ้มแย้ม นายทักษิณ กล่าวว่า กำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง (พร้อมหัวเราะ) ส่วนเรื่องอาการเจ็บหลังเพราะกล้ามเนื้อมันสะดุ้ง มันเป็นอยู่แล้ว แล้วนานๆ ถ้าผิดจังหวะมันก็ขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว ส่วนบริเวณคอ ก็เป็นไปตามอายุ มันเสื่อมก็ต้องคอยดูไม่ให้กดเส้นประสาท ส่วนมีกำหนดจะถอดเผือกอ่อนหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ถอดๆใส่ๆได้แล้วแต่อาการ

เมื่อถามถึงการมาเชียงใหม่ได้กินอาหารเหนืออะไรบ้าง นายทักษิณ บอกว่า ก็กินทุกอย่าง ไม่มาก็ได้กิน แต่ก็ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นการแช่แข็งไป ไม่เหมือนมากินสดๆ ส่วนคิดถึงอาหารอะไรเป็นพิเศษ นายทักษิณ บอกว่า ก็กินประจำ เพียงแต่ว่ามาที่นี่มันอร่อยกว่า มันสดกว่า ก๋วยเตี๋ยวเนื้อก้ต้องไปที่ร้านไม่มีแอร์ เหงื่อออกด้วยจะอร่อย

ดีใจที่คนยังไม่ลืม

เมื่อถามว่าการเดินตลาดแล้วมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมากรู้สึกอย่างไรบ้าง นายทักษิณบอกว่า ก็ดีใจ ที่ท่านยังไม่ลืม ไม่ลืมคนแก่คนหนึ่ง ส่วนที่หลายคนชมว่าหน้าตาไม่แก่เลยนั้น เมื่อได้กลับมาอยู่กับครอบครัวจิตใจมันก็อิ่ม ไม่เหมือนอยู่โรงพยาบาลตำรวจ จิตใจมันห่อเหี่ยวนิดหน่อย ทำอะไรก็ลำบาก และยิ่งหลานวัยยนี้มีคนบอกว่าเป็นวัยรักลูกหลงหลาน

เมื่อถามว่าคิดถึงอะไรที่สุดในเชียงใหม่ นายทักษิณบอกว่า จริงๆมันก็ภาพรวมทั้งหมดที่เราเคยเติบโตมา ตามประสาคนแก่ ก็เล่าให้ลูกฟัง ก็บอกว่าตอนเด็กๆอายุ 12-13 ปี ไม่มีของเล่น ก็ขี่จักรยานมาที่ถ้ำเมืองออน เมื่อก่อนเรียกว่าถ้ำขี้นก และมีการซื้อของกินจากสันกำแพงมากินที่ถ้ำ

ความเปลี่ยนแปลงของเชียงใหม่

เมื่อถามว่า เชียงใหม่เปลี่ยนไปเยอะไหม นายทักษิณบอกว่า ก็มีการกระจายตัวของเมืองมากขึ้น แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือความแห้งแล้ง เพราะว่ามันเหลืองหมด เพราะฉะนั้นอยากให้ย้อนกลับไปแบบคนเดิมๆเขาทำกันคือฝายแม้ว ซึ่งจะกักน้ำเป็นขั้นบันได ทำให้ภูเขาชุ่มชื้น และเขียว พอเขียวก็จะมีน้ำ มันเป็นวัฏจักร อย่างดูไบเขาแข่งความร่ำรวยที่บ้านใครมีต้นไม้เยอะกว่ากัน พอมันเขียวมันก็มีฝน เดี๋ยวนี้ดูไบฝนตกน้ำท่วมเลย เพราะเขาไม่เคยมีท่อระบายน้ำ เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะมีฝนตกอย่างนี้ แต่ของเราท่อระบายน้ำเต็มเลย แต่ไม่มีน้ำให้ระบาย มันแห้ง ดังนั้นวันนี้เราต้องเพิ่มต้นไม้ เพิ่มความเขียว เพิ่มความชุมชื้น ไม่งั้นจะเห็นแต่ความแห้งแล้งแล้วใจก็จะเหี่ยวตาม เพราะฉะนั้นวันนี้ใจสำคัญที่สุด อาจจะเพราะแก่แล้วเลยพูดถึงเรื่องใจบ่อย

ไอเดียแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5

เมื่อถามถึงเรื่องฝุ่น PM 2.5 ในเชียงใหม่ นายทักษิณบอกว่า ตนว่าปัญหาวันนี้มี 2 ส่วน ส่วนในประเทศคือเกษตรกร ต้นทุนเขาสูงกำไรน้อยอยู่แล้ว พอหมดฤดูกาลแทนที่จะไปไถกลบ แต่เขาไม่มีเครื่องมือ ก็เลยเผาเพราะง่ายดี แม้เขาจะรู้ว่าเผาไม่ดี แต่เขาไม่มีทางเลือก เพราะฉะนั้นฝ่ายราชการก็ต้องเข้าไปช่วยดูว่าจะช่วยเขาไถกลบอย่างไร ส่วนต่างประเทศ ก็เป็นเรื่องที่คนไทยไปปลูกข้าวโพดที่ฝั่งโน้นเยอะ นายกฯเขาอยากจะมีความคิดว่าห้ามนำเข้าทั้งหมด จนกว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น ก็จะด้ไปปรับตัวกันเอง ถ้ายังเผาอยู่อย่างนี้มันก็ไม่จบ ซึ่งท่านนายกฯก็บอกว่าควรจะห้ามนำเข้าทั้งหมดเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีจนกว่าเขาจะเลิกเผาแล้วค่อยนำเข้า

อดีตนายกฯ กับบริบทการเมือง

เมื่อถามว่าวันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่มีโอกาสจะได้เจอกันหรือไม่ นายทักษิณบอกว่า เห็นว่าจะเจอกันคืนนี้ ทานข้าวด้วยกัน ท่านสมชาย(วงษ์สวัสดิ์)เชิญ ท่านสมชายเป็นเจ้าภาพ ก็อดีตนายกฯก็มีหน้าที่ให้กำลังใจคนปัจจุบัน ถ้าถามอะไรถ้าเรามีความรู้เราก็ตอบ

เมื่อถามอีกว่าวันนี้อุ๊งอิ๊งค์มีความแข็งแกร่งในสนามการเมืองจนมาถึงตรงนี้แล้ว คิดอย่างไร นายทักษิณ บอกว่า ตนเป็นคนที่ไม่บังคับลูก ตามใจตลอด เดี๋ยวนี้ยังไม่เลิกตามใจเลย เพราะฉะนั้นก็ต้องแล้วแต่ใจ

เครดิตแหล่งข้อมูล : PPTVHD36