พี่เต้ ยื่นหนังสือเอาผิดก้าวไกล ลั่น ยุบพรรคแน่100%
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง พี่เต้ ยื่นหนังสือเอาผิดก้าวไกล ลั่น ยุบพรรคแน่100%
พี่เต้ มาแล้ว! ยื่นหนังสือถึง ‘บิ๊กต่อ' เอาผิดก้าวไกล ลั่น ยุบพรรคแน่100%
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ มงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อขอให้นำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ชูนโยบายหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเป็นการกระทำเข้าข่ายฐานความผิด ข้อหาเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 (1) ด้วย
โดยมี พ.ต.อ.วิชัย ปรเมษฐเนติกุล รอง ผบก ผก.(แผนงานกิจการพิเศษ) เวรอำนวยการ เป็นผู้รับเรื่อง
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ผบ.ตร.ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ตามมาตรา 1 ต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ จำเป็นต้องนำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นองค์ประกอบและวินิจฉัย พฤติกรรมและพฤติการณ์ของนายพิธาและพรรคก้าวไกล ว่าการกระทำดังกล่าวซึ่งศาลตัดสินชัดเจนว่าเป็นการล้มล้างระบอบการปกครอง จะเข้าข่ายความผิดฐานตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 (1) หรือข้อหากบฏหรือไม่ หาก ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร และเห็นว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นการระงับยับยั้งเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
พร้อมฝากถึงพรรคก้าวไกลว่า อยากให้ยอมรับคำตัดสินของศาลและอย่าทำอีกเลยให้จบแค่นี้ เพราะความผิดก็จะจบแค่การตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค หากยังมีความพยายามที่จะขับเคลื่อนต่อไป ความผิดคดีอาญาก็จะหนักขึ้น "มันก็คล้ายกับการวางอาวุธ แต่เป็นการวางอาวุธทางความคิด แต่หากสู้ต่อไปคือการทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและคนไทยสองฝ่ายต้องออกมาทำร้ายกัน หากไปถึงจุดนั้นก็จะทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายเป็นอย่างมากที่ผ่านมาตนเองก็เคยเตือนพรรคก้าวไกลแล้ว"
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า ยังมั่นใจว่าหากมีการยื่นให้ยุบพรรคก้าวไกล ทาง กกต.ก็จะรับเรื่องและส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย และพรรคก้าวไกลจะต้องถูกยุบ 100% รวมถึงการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคตั้งแต่ชุดที่ก่อตั้งพรรคก้าวไกลมาจนถึงปัจุจุปัน ส่วนเรื่องของจริยธรรมตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต อาจจะโดนแค่คนที่เสนอให้มีการแก้ ม.112 มองว่าการยุบพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้พรรคโตขึ้นได้ ส.ส.ในสภามากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีพรรคการเมืองที่ถูกยุบแต่ก็เล็กลงเรื่อยๆ ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ถูกยุบแล้วจะโตขึ้นมีแต่เล็กลงเรื่อยๆ
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ มงคลกิตติ์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อขอให้นำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ชูนโยบายหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเป็นการกระทำเข้าข่ายฐานความผิด ข้อหาเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 (1) ด้วย
โดยมี พ.ต.อ.วิชัย ปรเมษฐเนติกุล รอง ผบก ผก.(แผนงานกิจการพิเศษ) เวรอำนวยการ เป็นผู้รับเรื่อง
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ผบ.ตร.ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ พ.ศ.2565 ตามมาตรา 1 ต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ จำเป็นต้องนำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นองค์ประกอบและวินิจฉัย พฤติกรรมและพฤติการณ์ของนายพิธาและพรรคก้าวไกล ว่าการกระทำดังกล่าวซึ่งศาลตัดสินชัดเจนว่าเป็นการล้มล้างระบอบการปกครอง จะเข้าข่ายความผิดฐานตามประมวลกฎหมายอาญา ม.113 (1) หรือข้อหากบฏหรือไม่ หาก ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร และเห็นว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นการระงับยับยั้งเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
พร้อมฝากถึงพรรคก้าวไกลว่า อยากให้ยอมรับคำตัดสินของศาลและอย่าทำอีกเลยให้จบแค่นี้ เพราะความผิดก็จะจบแค่การตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค หากยังมีความพยายามที่จะขับเคลื่อนต่อไป ความผิดคดีอาญาก็จะหนักขึ้น "มันก็คล้ายกับการวางอาวุธ แต่เป็นการวางอาวุธทางความคิด แต่หากสู้ต่อไปคือการทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและคนไทยสองฝ่ายต้องออกมาทำร้ายกัน หากไปถึงจุดนั้นก็จะทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายเป็นอย่างมากที่ผ่านมาตนเองก็เคยเตือนพรรคก้าวไกลแล้ว"
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า ยังมั่นใจว่าหากมีการยื่นให้ยุบพรรคก้าวไกล ทาง กกต.ก็จะรับเรื่องและส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย และพรรคก้าวไกลจะต้องถูกยุบ 100% รวมถึงการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคตั้งแต่ชุดที่ก่อตั้งพรรคก้าวไกลมาจนถึงปัจุจุปัน ส่วนเรื่องของจริยธรรมตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต อาจจะโดนแค่คนที่เสนอให้มีการแก้ ม.112 มองว่าการยุบพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้พรรคโตขึ้นได้ ส.ส.ในสภามากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีพรรคการเมืองที่ถูกยุบแต่ก็เล็กลงเรื่อยๆ ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่ถูกยุบแล้วจะโตขึ้นมีแต่เล็กลงเรื่อยๆ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- ธนกร อัด พิธา ไม่เคารพคำสั่งศาล ดื้อแถลงแนวทางสู้
- พิธา เปิด 9 ข้อ ต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล
- กกต. ส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ ศาล รธน. แล้ว ปมยุบพรรคก้าวไกล
- กกต.ยื่นคำร้องยุบก้าวไกล ผ่าน E-filing จับตาพิจารณาทันที 20 มี.ค.
- ฉบับเต็ม คำวินิจฉัยศาล รธน.‘พิธา-ก้าวไกล’ล้มล้างการปกครอง
- เปิดชื่อพยานปากเอก ก่อนศาลชี้คดีพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง
- ก้าวไกล ต้องลุ้นดาบ 2 จะมีนักร้องร้องต่อ หรือ กกต.วินิจฉัยเอง
- “เรืองไกร” เด้งรับ! จ่อร้อง กกต. ยุบก้าวไกลพรุ่งนี้!
- เปิดชื่อ 44 สส.พรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ 112
- เปิดคำแถลง ก้าวไกล ยันไม่มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย
- ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ พิธา-พรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง
>> ดูทั้งหมด :ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ พิธา-พรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง