ผู้ว่าฯ สตง. ลั่นให้ตรวจสอบเต็มที่ แจ้งอิตาเลียนไทยรับผิดชอบ


ผู้ว่าฯ สตง. ลั่นให้ตรวจสอบเต็มที่ แจ้งอิตาเลียนไทยรับผิดชอบ

ผู้ว่าฯ สตง. ยืนยันตรวจสอบเต็มที่ โปร่งใส พร้อมให้ อิตาเลียนไทย รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด แจงปมไม่ทราบเรื่องบริษัทจีนร่วมสร้าง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 11 เมษายน 2568 นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เดินทางไปยังศูนย์พักคอยผู้ประสบภัย เพื่อให้กำลังใจแก่ญาติของผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคาร สตง. ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม

นายมณเฑียร กล่าวว่า ที่ สตง. ยังไม่ออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้องการรอและเคารพกระบวนการของรัฐบาล ที่ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมกว่า 22 ท่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผู้ว่าฯ สตง. กล่าวต่อว่า สตง. จึงต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ ควบคู่ไปกับการสืบสวนของตำรวจนครบาล และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ได้เข้ามาขอเอกสารทั้งหมดไปแล้ว สตง. พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ และไม่อยากให้ข้อมูลที่อาจถูกมองว่าเป็นการแก้ตัว แต่ต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์และตรวจสอบแล้วเท่านั้น

นายมณเฑียร ยืนยันว่า คณะกรรมการตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ การควบคุมงานก่อสร้าง หรือวัสดุที่ใช้ โดย สตง. ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการพิสูจน์ทางเทคนิคของช่าง

นายมณเฑียร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบผลการสอบสวน จึงไม่อยากคาดเดา และพร้อมให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการในทุกเรื่อง เมื่อผลสอบออกมาเป็นอย่างไรก็จะยอมรับ

ผู้ว่าฯ สตง. ชี้แจงถึงกรณีที่รัฐบาลเลื่อนการแถลงผลการสอบสวนจากเดิมวันที่ 10 เมษายน ทำให้ สตง. ต้องเลื่อนการแถลงในวันนี้ตามไปด้วย โดยตอนแรกตั้งใจจะแถลงถึงสิ่งที่ สตง. ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่เมื่อรัฐบาลเลื่อน จึงต้องเลื่อนตาม เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบก่อน และขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าบุคลากรของ สตง. ถูกหรือผิด ต้องรอผลการตรวจสอบ

เมื่อถูกถามถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพในการก่อสร้างอาคาร นายมณเฑียร กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ และอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบ พร้อมเชื่อมั่นว่าผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ จะไม่มีใครให้ข้อมูลเท็จหรือปกป้อง สตง. อย่างแน่นอน

สำหรับกรณีที่รองผู้ว่าฯ สตง. ชี้แจงว่าไม่ทราบเรื่องบริษัทจากจีนเข้าร่วมกิจการกับคู่ค้า นายมณเฑียร กล่าวว่า ควรรับฟังรายละเอียดคำชี้แจงทั้งหมดก่อน โดยส่วนตัวเข้าใจว่า การที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการร่วมมือกันก่อนที่ สตง. จะทราบนั้นอาจเป็นไปได้ แต่เมื่อมีการร่วมมือเสร็จสิ้นและมายื่นข้อเสนอเข้าร่วมประมูลแล้ว การกล่าวว่าไม่ทราบนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

นายมณเฑียร กล่าวต่อว่า ตามระเบียบการเข้าร่วมประมูล หากมีการร่วมมือระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทยและบริษัท ไชน่าเรลเวย์ฯ จริง จะต้องมีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาในขั้นตอนนั้น ดังนั้น จึงต้องแยกแยะว่า สตง. จะสามารถทราบได้หรือไม่ก่อนที่เขาจะมีการร่วมมือกัน ซึ่งประเด็นนี้เป็นข้อมูลที่ได้รับมาในเบื้องต้น

ส่วนประเด็นการสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่ นายมณเฑียร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่ให้ความสำคัญในขณะนี้คือเรื่องของการสูญเสียและการช่วยเหลือเยียวยา

นายมณเฑียร ย้ำว่า ขณะนี้ สตง. ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัท อิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบในส่วนของการประกันภัยต่างๆ ที่บริษัทได้ดำเนินการไว้ ไม่ว่าจะเป็นประกันอาคารหรือประกันความเสียหายอื่นๆ โดยบริษัทจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว


นอกจากนี้ สตง. ได้มีหนังสือถึงบริษัทประกันภัย เพื่อให้ชำระค่าสินไหมทดแทนมายังสำนักงานฯ ในฐานะผู้ว่าจ้าง และในกรณีที่บริษัทได้ทำประกันกับบุคคลที่สามไว้ ก็ได้มีการแจ้งไปยังบริษัทประกันในลักษณะเดียวกันว่า บริษัทต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย พร้อมกันนี้ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับประกัน รวมถึงแจ้งเลขาธิการ คปภ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนด้านประกันภัย ซึ่งทั้งหมดได้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรเรียบร้อยแล้ว

สำหรับกรณีค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ที่กรุงเทพมหานครได้แจ้งปัญหาเข้ามาเมื่อ 2 วันก่อน สตง. ได้ประสานไปยังผู้รับจ้างให้รับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยผู้รับจ้างยินยอมและได้จัดส่งค่าน้ำมันวันละ 4,000 ลิตรให้กับกรุงเทพมหานครแล้วตามที่แจ้ง

ผู้ว่าฯ สตง. กล่าวถึงการเยียวยาผู้เสียชีวิตว่า สำนักงานฯ ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พิจารณาจ่ายเงินชดเชยตามระเบียบกระทรวงการคลัง แต่เมื่อพิจารณาจำนวนเงินแล้วเห็นว่ายังไม่เพียงพอ จึงได้เสนอขอเป็นกรณีพิเศษ และขณะนี้ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลังในเบื้องต้นแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบที่ สตง. ในฐานะผู้ว่าจ้าง ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมถึงมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อสงสัยของประชาชน สตง. พร้อมให้คณะกรรมการตรวจสอบในทุกเรื่อง เพื่อแสดงความโปร่งใส

สำหรับกระแสข่าวความสนิทสนมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายมณเฑียร กล่าวว่า รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2549 และสนิทกันในช่วงปี 2553 ในฐานะเพื่อน ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามาทำงานการเมือง และเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการสอบสวนจะไม่ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียหรือให้ความช่วยเหลือใครอย่างแน่นอน

ส่วนข้อสงสัยเรื่องการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน สตง. นายมณเฑียร กล่าวว่า หาก สตง. ตรวจสอบกันเอง สังคมอาจไม่เชื่อมั่น จึงต้องอาศัยหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบ และ สตง. ยินดีรับการตรวจสอบอย่างเต็มที่


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม ทันทุกเรื่องฮิต


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์