จิตแพทย์ ชี้ปัญหาหยกบานปลาย พร้อมข้อแนะนำถึงผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง
ก่อนอื่นควรมาทำความเข้าใจในพื้นฐาน 2 ด้านของปัญหานี้ ด้านที่ 1 คือ ความเห็นต่างทางการเมือง อันที่จริงเราได้รับบทเรียนมากว่า 10 ปี ว่าการปฏิบัติต่อความเห็นต่างว่า เป็นเรื่องของความถูกผิด ดีเลว ทำให้สังคมไทยไม่มีทางออก จนเกิดความรุนแรงและกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับมาเปิดใจกว้างกับความเห็นต่างว่า เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นพลเมือง ที่มีความปรารถนาดีต่อสังคม ทำให้เรามีทางเลือก มองเห็นปัญหาและทางออกที่หลากหลาย แทนความเกลียดชัง (เพราะไปเห็นว่า ถูกผิดดีเลว)
ยิ่งต่างฝ่ายมีสังคมและสื่อสังคมของตนเอง ก็ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเกลียดชังและข่าวลวงต่างๆ อย่างที่เราสัมผัสได้ในเวลานี้ จึงเสนอว่า ในสื่อสังคมเราต้องช่วยกัน 2 ไม่ คือ ไม่ผลิตและไม่ส่งต่อ และ 1 เตือน ด้วยเหตุผล เพื่อให้สังคมไทยกลับมาอยู่บนพื้นฐานของการเปิดรับความเห็นต่างโดยไม่เกลียดชัง เพื่อที่จะทำให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปได้
ส่วนการแก้ปัญหาความ "เห็นต่าง" กับเยาวชน สถานศึกษาควรใช้มาตรการเชิงป้องกัน ด้วยการสื่อสารและสร้างความเข้าใจ ระหว่าง 3 ฝ่าย คือโรงเรียน ผู้ปกครอง และนักเรียน ผ่านกลไกต่างๆ เช่น home room ประชุมผู้ปกครอง กิจกรรมนักเรียน นักศึกษาด้วยบรรยากาศของการเปิดรับและเคารพซึ่งกันและกัน
สำคัญที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันคือ ช่วยกันอย่าปล่อยให้สื่อสังคมสร้างความเกลียดชัง ที่ทำให้สังคมไทยเสี่ยงต่อความรุนแรง ด้วยการไม่ส่งต่อ และช่วยเตือนการส่งข้อความที่รุนแรง และข่าวลวงด้วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- ดาราหนุ่ม แนะน้องหยก เรียนกศน.สิ จะได้ไม่ต้องใส่เครื่องแบบ!
- ด่วน! จำคุก บุ้ง ละเมิดอำนาจศาลไม่รอลงอาญา ออกหมายจับหยก
- ล่มแล้ว! เตรียมพัฒน์ฯ ไม่เจรจากับตัวแทนก้าวไกล หาทางออกเรื่องหยก
- คำผกา แสดงความคิดเห็น3ข้อ ให้คิดตาม อั๋นลั่นอยากคุยกับหยกเรื่องนี้?
- รู้แล้ว!! ทำไมพ่อแม่หยก ไม่พามามอบตัวเข้าเรียนจนต้องปีนรั้ว
- หมออั้ม เขียนถึง หยก ในฐานะ หมอและพ่อคน
- อีกแล้ว! หยกปีนรั้วโร่ถามผอ.โรงเรียน หลังเตรียมพัฒน์เพิ่งแถลงการณ์
- กสม.ออกแถลงกรณี “หยก” ย้ำเด็กทุกคนต้องไม่หลุดจากระบบการศึกษา
- หยกแจง 5 ข้อ ยันไม่ได้ดื้อแพ่ง! สังคมไทยถึงเวลาเปลี่ยน
- ความคิดเห็นเด็กนักเรียน,ผู้ปกครองคิดเห็นอย่างไรกรณี น้องหยก
>> ดูทั้งหมด :ตามติดประเด็น ดราม่า น้องหยก