พบแล้วมือสาว18 ถูกแฟนฆาตกรรมโหด พ่อผู้พ่อเหตุโฟนอินพูดสั้นๆ

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม พบแล้วมือสาว18 ถูกแฟนฆาตกรรมโหด พ่อผู้พ่อเหตุโฟนอินพูดสั้นๆ

รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันกรณี พบศพ หมิงหมิง หญิงสาว อายุ 18 ปี ถูก แซน แฟนหนุ่ม อายุ 18 ปี ฆาตกรรมที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี และนำร่างมาทิ้งใต้ทางด่วน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2567

จั๊มพ์ พี่สาวของหมิงหมิง ผู้เสียชีวิต เล่าพฤติกรรมของนายแซน ผู้ก่อเหตุ ว่ามีพฤติกรรมรุนแรง เขาเคยมาเล่าให้ตนฟังด้วยตัวเองเลยว่า มีความสุขมากเวลาที่ได้ทำร้ายคน มีความรู้สึกอยากฆ่าคน

อย่างกรณีปี 65 เขาเคยติดต่อขายโทรศัพท์ให้เด็กหญิงอายุ 13 ราคา 800 บาท แต่เด็กโอนเงินให้แซนแค่ 300 ค้างจ่ายอยู่ 500 บาท ตามทวงแล้วไม่ได้สักที แซนก็เลยให้หมิงหมิงโทรตาม หมิงหมิงเข้าใจว่าแค่จะทวงเงินเฉยๆ ปรากฏว่าแซนไปดักรอเด็ก พอเด็กลงมา เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าไปชกต่อยจนเด็กสลบ แล้วลากร่างไปทำอนาจาร

เหตุการณ์ครั้งนั้นเขายังกล้าเอามาเล่าให้จั๊มพ์ฟัง ว่าเขามีความสุข ตื่นเต้นมากตอนที่ได้ทำร้ายคน แล้วอยากจะเอาดินฝังกลบเด็กคนนั้นด้วย เราตกใจมาก พยายามเตือนน้องว่าแบบนี้ไม่น่าอยู่ด้วยแล้ว น้องเราพยายามถอยออกห่างมาหลายรอบ แต่เขาก็จะมาง้อด้วยคำหวานๆ ตลอด

แม่ดาว แม่ของหมิงหมิง เล่าว่า ตอนที่รู้จักกับแซน เขาเป็นเด็กน่ารักมาก สุภาพ ชอบมาอ้อนแม่ เขาเคยบอกว่าเขารักลูกสาวเราจริงๆ เดี๋ยวเรียนจบ จะหาเงินมาขอลูกเราแต่งงาน เรายังรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักมาก ไม่เคยเห็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเลย ที่ลูกไม่เคยเล่า เพราะหมิงหมิง เขาเป็นคนที่ห่วงความรู้สึกแม่มากๆ เรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ เขาจะไม่ยอมเล่าให้แม่ฟังเลย

แม่เพิ่งมารู้หลังเกิดเหตุ ว่าเมื่อ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ลูกสาวบอกแม่ว่าจะกลับบ้าน แต่ไม่ได้กลับ มารู้จากจั๊มพ์ว่า ที่เขาไม่ได้กลับ เพราะถูกแซนมัดมือมัดเท้า

จั๊มพ์บอกว่า น้องสาวเล่าว่า ครั้งนั้นหมิงหมิงไปขอเลิก แต่แซนไม่ยอมเลิก ก็เลยจัดน้องสาวเรามัดมือมัดเท้า แล้วเอามีดจ่อคอ สุดท้ายน้องเราต้องยอมคืนดีด้วย ก่อนสุดท้ายจะมาเกิดเหตุสลด

จั๊มพ์ยังมีแชตที่น้องสาวทักมาระบายว่า จับได้ว่าแซนแอบไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น แล้วยังเอาเงินของหมิงหมิงไปจนหมดตัว 17,000 บาท ทำให้หมิงหมิงไม่รู้จะหนีออกมาอย่างไร

วันที่มีคนโทรมาแจ้งว่าน้องสาวถูกฆาตกรรม เรายังไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่พอไปถึงโรงพัก เจอว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริง เราตกใจมาก ตอนออกมาจากโรงพักยังเจอครอบครัวของผู้ก่อเหตุ เรายังเข้าไปถามว่า "จะไม่พูดอะไรกับหนูหน่อยเหรอ ลูกคุณทำน้องหนูตายนะ" ปรากฏว่าครอบครัวเขาบอกว่า "ไม่พูด ทีน้องคุณยังไม่พูดอะไรเลย" เหมือนเขาโยนมาว่าน้องเราก็ผิดเหมือนกัน อันนี้ที่เราติดค้างคาใจมากๆ

โฟนอินพ่อผู้ก่อเหตุ

ต่อมาทางพ่อของผู้ก่อเหตุโฟนอินเข้ามา พูดเพียงว่า รู้สึกเสียใจ และจะขอโทษครอบครัวผู้สูญเสีย ต่อสิ่งที่ลูกของตนได้ทำลงไป และยืนยันว่าจะรับผิดชอบเยียวยาทางครอบครัวผู้สูญเสีย โดยหลังจบรายการจะขอคุยส่วนตัวกับคุณแม่ของหมิงหมิงอีกครั้ง

เมื่อถามว่า นายแซน มีประวัติรักษาอาการจิตเวชหรือไม่ พ่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และมีการรักษามาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่พี่สาวบอกว่า ฟังพ่อผู้ก่อเหตุพูด ยังไม่รู้สึกถึงความจริงใจเลย และอยากจะถามว่า ทำไมแซนถึงใจร้ายกับน้องสาวตนได้ขนาดนี้ ในเมื่องหมิงหมิง ดูแลเขาทุกอย่าง เป็นคนพาไปหาหมอ พาไปรักษาจิตเวช เงินประกันตัวที่เขาไปทำร้ายเด็ก 13 น้องตนก็ไปหามาประกันตัวเขา ทั้งที่เขาไม่เคยทำอะไรให้หมิงหมิงเลย

ขณะที่คุณเอ ผู้เห็นเหตุการณ์ตอนที่นายแซนเอาศพมาทิ้ง เล่าว่า สามีตื่นมาช่วงเช้ามืด เห็นผู้ชายคนนี้เอาห่ออะไรมาทิ้ง แล้วลากถังขยะหน้าบ้านเรา ไปเทขยะกลบ ลากหญ้า ลากอะไรมากลบ รู้สึกผิดสังเกต จึงเอามือถือมาถ่ายภาพไว้ได้

ต่อมาชายคนนี้วนกลับมาอีกรอบ สามีตะโกนถามว่า "เฮ้ย เอาอะไรมาทิ้ง มาเก็บกลับไปเลยนะ เดี๋ยวจะแจ้งตำรวจ" ผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาว่า "ผมเอาของรักมาซ่อน"

คุณเอ บอกสามีว่า อย่าเพิ่งข้ามไปดู รอให้สายๆ รอให้มีคนอยู่ด้วยเป็นพยานเยอะกว่านี้ก่อน เพราะกลัวเป็นของผิดกฎหมาย กลัวเป็นยาเสพติด พอช่วง 8-9 โมง ก็ไปคุ้ย ตอนแรกยังคิดว่าจะเป็นตุ๊กตายาง ไปๆ มาๆ เริ่มไม่ใช่แล้ว เป็นศพคนจริงๆ ก็รีบแจ้งตำรวจเลย

ขณะที่ ยอด อาสาร่วมกตัญญู ที่เข้าไปในที่เกิดเหตุ นำห่อศพออกมาให้หมอนิติเวชตรวจ ในที่เกิดเหตุจะมีหยดเลือด หยดมาตามถนนตลอดทาง ระยะทางไกลมาก จึงรีบกั้นถนน รอให้ทางพิสูจน์หลักฐานมาเก็บวัตถุพยานหลักฐานทั้งหมด

ตอนที่เอาห่อผ้าออกมา ตกใจมาก พบว่าเขาใช้ไม้แขวนเสื้อมาดัดเป็นลวด แล้วมัดขาทั้งสองข้างไว้นอกผ้า เหมือนมัดตราสัง แล้วใช้เข็มขัดมหาวิทยาลัยมัดอีก ค่อยๆเปิดห่อ ก็เจอบาดแผลที่ศพ บาดแผลฉกรรจ์ที่สุดคือที่ลำคอ แผลไม่เรียบ แล้วก็พบว่ามือทั้งสองข้างถูกตัด บาดแผลที่ข้อมือแผลเรียบมาก น่าจะใช้อาวุธที่คมมากๆ มีดัมเบลถ่วงน้ำหนักในห่ออีก อาจจะตั้งใจว่าจะเอาไปถ่วงน้ำหรือเปล่า แต่พอมาถึงแล้วมันสว่างเสียก่อน ก็เลยเอาศพมาทิ้งไว้ก่อน แต่มีคนมาพบ

ส่วนเรื่องมือที่หายไปของเหยื่อ กู้ภัยปูพรมทั่วพื้นที่ แต่ยังไม่พบ ตอนนี้เมื่อผู้ก่อเหตุยังสามารถพูดได้ อยากให้ทางตำรวจสอบสวนก่อน ว่าเอามือไปไว้ที่ไหน ล่าสุดทราบว่ามีการไล่กล้องวงจรปิดจนเจอว่าผู้ก่อเหตุไปที่คลองแห่งหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจและอาสาไปที่จุดดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ทีมประดาน้ำลงงมหามือผู้ตาย

ขณะที่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา และการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต ชี้ว่า พฤติกรรมของคนร้ายมีจุดที่เป้นประเด็นหลายจุด เช่น การตัดมือของเหยื่อ อาจจะเป็นการต้องการปิดบังอัตลักษณ์บุคคล ไม่ให้พิสูจน์ตัวตนคนตายจากลายนิ้วมือได้ และยังพบว่ามีความพยายามจะตัดที่ศีรษะออก แต่ทำไมสำเร็จ

ส่วนเรื่องเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือไม่ ในทางกฎหมายต้องเป็นผู้ป่วยวิกลจริตชนิดที่ว่า ไม่มีสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง เดินถอดเสื้อผ้าข้างถนนอะไรแบบนั้น แต่เท่าที่ดูลักษณะนี้มันไม่น่าจะใช่ เพราะความพยายามในการปิดบังอัตลักษณ์ผู้ตาย ความพยายามในการซ่อนเร้นอำพรางศพ มันก็ยิ่งสะท้อนว่า ผู้ป่วยทางจิตจะคิดซับซ้อนขนาดนี้ได้จริงหรือ

ขณะที่ ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข บอกว่า เท่าที่ฟังพ่อของผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเขามีประวัติรักษาจิตเวชมาอย่างต่อเนื่อง ต้องไปดูประวัติอื่นๆ เพิ่มเติม อาจจะเป็นไปได้ทั้งเรื่องไซโคพาธ หรือหูแว่ว ภาพหลอนอะไรต่างๆ มันเป็นไปได้หลากหลายแบบ
ส่วนพฤติกรรมที่เขามาเล่าให้คนอื่นฟังว่า เขาสะใจที่ได้ทำร้ายคนอื่น มันสะท้อนถึงภาวะทางจิตหลายอย่าง การขาด Empathy หรือความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น มันเป็นส่วนหนึ่งของอาการทางจิตหลายรูปแบบ ต้องไปดูข้อมูลการรักษาของเขามาประกอบ

แต่การจะอ้างว่าเป็นโรคจิตแล้วไม่ต้องรับโทษ การจะพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต ฟั่นเฟือน ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี การพิสูจน์มันยากมาก ต้องหนักถึงขั้นกินอาจมตัวเองได้ ยิ่งการวางแผนทำสิ่งต่างๆ เป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้ ยิ่งสู้ในเรื่องอาการทางจิตยาก

เช่นเดียวกัน ทนายไพศาล ว่า คดีนี้จะไปสู้ว่าเป็นอาการจิตยากมาก พฤติกรรมมันสะท้อนชัดว่ามีการวางแผน ยิ่งอายุครบ 18 ปีแล้ว ขึ้นศาลผู้ใหญ่ ไม่ใช่เยาวชนแล้ว ไล่เรียงพฤติกรรมต่างๆ โทษหนักถึงประหารชีวิต จะสู้ให้ไม่ต้องรับโทษ บอกเลยว่าสู้ไม่ได้ หลุดหมด ยังไงก็ต้องรับโทษแน่นอน
ล่าสุดเวลาประมาณ 13.50 น. มีสายเข้ามาที่คุณยอด รายงานว่าเจอมือของผู้ตายแล้ว ในคลองดังกล่าวจริงๆ บริเวณ ใต้สะพานจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ต.บางพูน โดยทางทีมข่าวได้รายงานสดเข้ามาในสตูดิโอ รายงานว่าพบมือแล้วจริงๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทำให้ยังไม่สามารถเข้าไปได้

โดยการมาค้นพบมือของผู้ตาย เป็นเพราะทางชุดสืบไล่กล้องวงจรปิดจนพบว่าผู้ก่อเหตุ มาที่จุดดังกล่าว จึงนำกำลังมาค้นหา สุดท้ายพบจริงๆว่ามือถูกนำมาทิ้งบริเวณริมตลิ่ง ถูกใส่ไว้ในถุงดำ คาดว่าน่าจะทิ้งลงน้ำแล้วน้ำซัดมาเกยตลิ่ง

ท้ายที่สุด ทางทนายไพศาล ยืนยันจะช่วยเหลือเรื่องคดีความ ให้แม่ของน้องหมิงหมิงเซ็นตั้งทนายได้เลย หากเห็นว่าคดีล่าช้าก็จะฟ้องต่อศาลเองได้ คดีนี้หลักฐานทุกอย่างชัดมาก และขอยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุจะสู้ให้หลุดคดีทางไหนก็ไม่รอด ไม่ว่าจะทางจิตเวช หรือเรื่องอายุ 18 ปี ก็ตาม รับรองว่ารับโทษแน่