แม่เสี่ยท็อป แฉเองเสี่ยท็อป หลอกกระทั่งแม่ จนเอาปืนจ่อ หลังถูกขโมยทองหมดตู้

จากกรณีพริตตี้สาวชาว จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมว่า ถูกนายนัท หรือ เสี่ยท็อป อ้างว่าเป็นเสี่ยหมื่นล้าน หลอกให้แต่งงาน จดทะเบียนสมรส

โดยมีการจัดงานแต่งใหญ่โตที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แต่สุดท้ายทิ้งหนี้ทั้งหมดไว้ให้ 3.5 ล้านบาท โดยฝ่ายหญิงระบุว่า เปิดหน้าเปิดตัวต่อสังคมเพราะตนเองนั้นเป็นผู้เสียหายไม่ได้ทำอะไรผิด

ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้เดินทางไปที่บ้านของแม่เสี่ยท็อป ที่ จ.สระบุรี นางญานี (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี แม่ท็อป เสี่ยลำมะกอ เปิดเผยว่า ไม่ได้อยู่กับลูกชายมานานแล้ว 5 ปีที่ผ่านมา ลูกชายเดินทางมาหาแค่ 2 ครั้ง โดยลูกชายเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ จนแม่ไม่รู้ว่าเขียนยังไง ซึ่งแม่บอกว่า ให้ไปเปลี่ยนนามสกุล เพราะทำให้เสื่อมเสีย ตอนนี้ญาติพี่น้องก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงแล้ว แม่มาได้ข่าวจากในทีวี แม่ก็ทนไม่ได้จะกินยานอนหลับ 10 เม็ดแล้ว แม่ไม่ได้ติดต่อกับเขาไม่รู้จริงๆ ว่าทำอะไร เมื่อได้ข่าวก็พยายามโทรหาเขาก็ไม่รับ ซึ่งปกติเขาจะไม่รับโทรศัพท์ก็ไลน์ทิ้งไว้ เขาก็ส่งแชทไลน์กลับมาให้ดู ว่ารับไม่ได้ในสิ่งที่ผู้หญิงทำที่เขมร จึงเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นหรือไม่

“เราไม่รู้จะบอกสังคมว่ายังไง แม่อยู่ตรงนี้คนเดียว ออกไปข้างนอกบ้าน ก็โดนคนซุบซิบทุกวันนี้ก็เจ็บปวดใจเหลือเกิน ทุกวันนี้ แม่ไม่เคยเอาเงินลูกมา เขาไม่ได้เลี้ยงเรา แต่จะพูดอะไรก็จะกลายเป็นแม่ที่ไม่สั่งสอนและทับถมลูก เรื่องนี้ถ้าผู้หญิงมาบอกแม่ก่อน ก็จะเอาที่ไปจำนองชดใช้ให้ แต่ออกข่าวแบบนี้แม่ก็เสียหาย ก็ถือว่า แม่ชดใช้ให้แล้ว ที่ผ่านมา ลูกเคยพาผู้หญิงมาบ้านนี้ครั้งเดียว แล้วก็มารับแม่ไปงานแต่ง แม่จะไม่ไปเพราะไม่สบาย แต่ลูกก็มารับ ก็ไป แต่ก็ไม่ได้ไปงานแต่งเพราะไม่สบายต้องนอนพักโรงแรม”นางญานี กล่าว.

เมื่อถามเรื่องอาชีพพ่อค้าเห็ด นางญานี กล่าวว่า เป็นอาชีพของเมียที่อยู่ลำลูกกา ทอดเห็ดขายอยู่ ซึ่งลูกชายก็เคยไปช่วยเมียขายจริง และตนก็เคยไปหา เห็นเขาทอดเห็นจนตัวดำก็ยังบอกว่า ทำไมถึงลำบากแบบนี้

“ตั้งแต่เด็กๆ ท็อปเคยไปติดผู้หญิง เอาเครื่องประดับไปขายเอาเงินไปเที่ยวญี่ปุ่น แม่กลับมามาเปิดตู้ดูนึกว่าตาฝาด ไม่มีของเหลือแค่ทอง 3 สลึง เอาไปเยอะมาก แม่ไปไถ่กลับมา 3-4 แสน ตอนนั้นก็โกรธมาก เอาปืนจ่อลูกไป แต่เพื่อนเอาตัวมาขวางไว้ แต่ลูกชายก็สร้างเรื่องบ่อยๆ ติดคุกให้แม่ไปประกัน ก็เคยบอกไปแล้วว่าไม่สงสารแม่บ้างหรือไง”นางญานี กล่าว

อย่างไรก็ตามนางญานี ระบุว่า ตนเองไม่ได้มีอาชีพอะไร เก็บเงินจากค่าเช่าที่วรจักร กินไปเป็นรายเดือนเท่านั้น