ชาวเวเนฯเดือด!! ประท้วงวิกฤตขาดแคลนอาหาร

ชาวเวเนฯเดือด!!  ประท้วงวิกฤตขาดแคลนอาหาร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลาว่า ประชาชนชาวเวเนซุเอลากว่า 100 คน พยายามบุกฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่มุ่งหน้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงการากัส เมื่อวันพฤหัสบดี จากความไม่พอใจเรื่องสถานการณ์ขาดแคลนสินค้าบริโภคพื้นฐาน โดยเฉพาะอาหารและยา ซึ่งนับวันจะรุนแรงยิ่งขึ้น


เจ้าหน้าที่ปราาบจลาจลพร้อมอาวุธและเครื่องป้องกันครบมือ ตั้งแนวกั้นพร้อมโล่เผชิญหน้าผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ซึ่งเหตุการณ์เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นจนเจ้าหน้าที่ต้องใช้แก๊สน้ำตาและยื้อยุดกันอยู่หลายชั่วโมง ประชาชนบนอาคารโดยรอบต่างมุงดูทางหน้าต่างและตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชนวนเหตุของการเผชิญหน้าครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่ประชาชนจำนวนมากต่อแถวเข้าคิวรอการปันส่วนอาหารจากทางการ ก่อนจะมีคนบางกลุ่มซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐลัดคิว ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจ


ชาวเวเนฯเดือด!!  ประท้วงวิกฤตขาดแคลนอาหาร

การประท้วงครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนชั้นกลางผู้ต่อต้านรัฐบาล โดยคราวนี้เป็นประชาชนระดับล่างจากชุมชนแออัดในกรุงการากัสที่เป็นฐานเสียงสำคัญของรัฐบาล ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายหวั่นว่าอาจซ้ำรอยเหตุการณ์จลาจล 4 วัน เมื่อปี 2532 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน โดยนอกจากกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลที่ติดอาวุธเข้าร่วมในเหตุวุ่นวายครั้งนี้ด้วย ขณะที่องค์กรสื่อเผยว่ามีสื่อมวลชนอย่างน้อย 17 คน ถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่ในเหตุชุลมุน

ชาวเวเนฯเดือด!!  ประท้วงวิกฤตขาดแคลนอาหาร

ด้านความพยายามเสนอแผนลงประชามติถอดถอนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร โดยฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา ยังคงยือเยื้ออยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง (ซีเอ็นอี) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาว่าตกอยู่ใต้อิทธิพลของประธานาธิบดี นายจีซัส ตอร์รีอัลบา โฆษกฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและเตือนว่าแผนถ่วงเวลาอาจนำมาซึ่งความรุนแรง 

เหตุไม่พอใจจนนำไปสู่ข้อเสนอปลดประธานาธิบดี เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยขั้นรุนแรงด้วยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงถึง 700 เปอร์เซนต์ และคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ที่คาดว่าจะชะลอตัวร้อยละ 8 โดยที่ผ่านมาประชาชนต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนสินค้าจำเป็นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา


ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร



ตามกฎหมายเวเนซุเอลาเปิดช่องให้มีการยื่นเสนอการทำประชามติเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีได้ โดยฝ่ายค้านได้ยื่นรายชื่อประชาชนผู้สนับสนุนชุดแรกต่อซีเอ็นเอตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหากผ่านการตรวจสอบอย่างน้อย 200,000 รายชื่อ เจ้าของรายชื่อจะต้องออกมาแสดงตัว จากนั้นฝ่ายเสนอจะต้องรวบรวมรายชื่อ 4 ล้านรายชื่อ หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง สำหรับการยื่นคำร้องครั้งที่ 2 เพื่อให้ซีเอ็นเอเริ่มดำเนินการจัดทำประชามติ 

หากกระบวนการทั้งหมดสิ้นสุดลงได้ภายในปีนี้ซึ่งจำเป็นต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกว่า 7.5 ล้านเสียงที่นายมาดูโรได้จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2556 ผลลัพธ์จะนำไปสู่การปลดประธานาธิบดีและเลือกตั้งใหม่ แต่หากลากยาวไปถึงต้นปีหน้า แม้จะปลดนายมาดูโรลงจากตำแหน่งได้ แต่การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้น โดยรองประธานาธิบดีจะขึ้นดำรงตำแหน่งแทนจนครบวาระที่เหลือ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์