หลวงพ่อรอดสองแควละสังขาร

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.พิษณุโลกว่า พระครูสถิตวีรธรรม หรือหลวงพ่อรอด ฐิตวิริโย เจ้าอาวาสวัดสันติกาวาส ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดพิษณุโลกละสังขารอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 18 พ.ย.51 รวมอายุได้ 87 ปี 11 เดือน ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ได้นำศพหลวงพ่อรอดกลับไปยังวัดสันติกาวาส เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล โดยในเบื้องต้นมีพิธีสรงน้ำศพ เวลา 16.00 น. วันเดียวกันนี้ จากนั้นมีพิธีสวดพระอภิธรรม ส่วนจะตั้งศพไว้กี่วันนั้นต้องรอการหารือของบรรดาคณะกรรมการและศิษยานุศิษย์อีกครั้ง

นายพรชัย ธเนศราภา ไวยาวัจกรวัดสันติกาวาส กล่าวว่า หลวงพ่อรอด เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพรหมพิราม เมื่อวันที่ 1 พ.ย.51 ที่ผ่านมา

เนื่องจากมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากกิจนิมนต์ที่หลวงพ่อไม่เคยปฏิเสธ โดยทุกวันท่านจะต้องเดินทางไกลเพื่อไปร่วมในพิธีซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการอธิษฐานจิต ปลุกเสกวัตถุมงคล เพราะท่านเป็นพระเกจิที่ได้รับความศรัทธาด้านคาถาอาคม ด้วยอายุที่มาก การพักผ่อนน้อยทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย แม้ทางลูกศิษย์จะพยายามขอร้องให้ท่านเลิกรับกิจนิมนต์ แต่ท่านก็บอกว่า เขามาเพราะเขาเชื่อมั่นศรัทธาจะปฏิเสธเขาได้อย่างไร

"หลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพรหมพิรามได้ 3 วัน แพทย์เห็นว่าอาการทรุดหนักลงจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จนกระทั่งหลวงพ่อละสังขารลงอย่างสงบ ตอนนี้พิธีศพก็จะต้องรอบรรดาคณะกรรมการและลูกศิษย์ต่างๆ ที่กำลังเดินทางมาร่วมงาน โดยจะมีการหารือถึงกำหนดการตั้งศพบำเพ็ญกุศลว่าจะตั้งไว้กี่วันก่อนจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป" นายพรชัยกล่าว

พระครูสถิตวีรธรรม หรือหลวงพ่อรอด ฐิตวิริโย มีนามเดิมว่ารอด แจ่มจุ้ย เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2464 ที่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ตลุกเทียม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

เป็นบุตรคนที่สองในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของนายเพชร นางบุญมา แจ่มจุ้ย ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา เข้าสู่พิธีอุปสมบทที่วัดเชิงหวาย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2485 ได้รับฉายาว่า "ฐิตวิริโย" โดยมีพระครูญาณปรีชา วัดดอกไม้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์หัด วัดหางไหล อ.พรหมพิราม พิษณุโลก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการพวง วัดเชิงหวาย อ.พรหมพิราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลวงพ่อรอด เป็นพระที่เริ่มก่อตั้งวัดสันติกาวาสขึ้น และมีการพัฒนาศาสนสถานจนเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน

ในระหว่างอุปสมบทท่านเดินทางศึกษาธรรมะจากที่ต่างๆ รวมถึงการเข้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ทำให้การปลุกเสกวัตถุมงคลชิ้นใดของหลวงพ่อเป็นที่ต้องการของบรรดาศิษยานุศิษย์มาก โดยเฉพาะกับทหาร ตำรวจ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงภัยกับโจรผู้ร้ายที่ชุกชุมในอดีต แม้กระทั่งชานหมากที่หลวงพ่อเคี้ยวยังแย่งกันนำไปบูชา และหลังหลวงพ่อรอดละสังขาร บรรดาเซียนพระที่ทราบข่าวต่างเริ่มหาวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่สร้างโดยหลวงพ่อรอดออกมาวางตามแผงแล้ว