มาร์คย้ำไม่คิดล้มรบ.อยากเห็นอยู่ครบวาระ

มาร์คย้ำไม่คิดล้มรบ.อยากเห็นอยู่ครบวาระ


'มาร์ค'ย้ำไม่คิด'ล้มรบ.'อยากเห็นอยู่ครบวาระ

"มาร์ค" ย้ำ ไม่คิด "ล้มรบ." อยากเห็นมีเสถียรภาพ-อยู่ครบวาระ จี้ ประกาศจุดยืนให้ชัด "ไม่นิรโทษฯคนโกง-คนก่อการร้าย-ไม่คิดล้มรธน.-ไม่ยึดอำนาจขององค์กรอิสระ"

 


          วันที่ 22 ก.ค.56  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทางบูลสกาย เคเบิ้ลทีวี ถึงการพูดบนเวทีผ่าความจริงเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตอนนี้ฝ่ายค้านไม่ได้กลัวการล้มรัฐบาล แต่กลัวรัฐบาลล้ม ว่า ตนพูดไปไม่ได้มีความตั้งใจจะไปล้มรัฐบาล ขอให้รัฐบาลทำงานไป เราอยากเห็นความมีเสถียรภาพ แต่รัฐบาลอย่าไปทำในสิ่งที่มันไม่ใช่เรื่องที่เขาให้รัฐบาลมาทำ เช่น การไปช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักการเมือง ก็อยากให้รัฐบาลก็อยู่ครบวาระ
               
          ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า  ที่สำคัญที่ตนพูดแหย่ก็คือว่า รัฐบาลล้มไปวันนี้ ใครเข้าไปทำงานแทนเหนื่อยตายเลย เพราะสร้างปมไว้เยอะมาก ทั้งข้าว 20 ล้านตันอยู่ในสต็อก ทั้งการเจรจาพูดคุยกับบีอาร์เอ็น ซึ่งเดินไปแล้วก็มีปัญหามากมาย อ.สะเด าบ้าง ตอนนี้กลับกลายเป็นอยู่ดีๆ บีอาร์เอ็น มากล่าวหาว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงนี้เป็นของฝ่ายรัฐเสียอีก แล้วก็ยังมีปัญหาของแพง ไปขึ้นค่าไฟแล้ว กำลังจะขึ้นค่าแก๊ส ดังนั้นตนอยากให้รัฐบาลสางปมเหล่านี้ พิสูจน์ตัวเองไปเลย 4 ปีนี้ แล้วประชาชนจะได้เห็น
               
          หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนฝ่ายต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้นั้น ตนก็มีข้อสังเกต เพราะเห็นคนของรัฐบาลมักจะกล่าวอ้างทำนองว่า มีขบวนการลึกลับ ซับซ้อน ใหญ่โต มีคนอยู่เบื้องหลังชักใย พูดเป็นเงิน แบบพันล้าน ตนก็ไม่รู้ และไม่ทราบว่า เงินพวกนั้นมันหาง่ายจริงๆ หรือไม่ กลุ่มที่เคลื่อนไหวขณะนี้หลากหลาย จนตนเองบางทียังจะต้องถามว่า องค์การพิทักษ์สยาม หรืออพส. กลุ่มหน้ากากขาว และกองทัพประชาชน กลุ่มไหนเป็นกลุ่มไหน แล้วก็รู้สึกแนวทางก็ไม่ได้ตรงกันทั้งหมด แม้แต่ในกลุ่มหน้ากากขาวเอง ก็ยังมีเหมือนกับการช่วงชิงการนำอะไรอยู่ ซึ่งดูแล้วไม่ได้เป็นอาการของการเคลื่อนไหวแบบที่ฝ่ายรัฐบาลเขากล่าวหาเลย ถ้ามีเงินเป็นพันล้าน ทำไมการจัดการจึงไม่มารวมตัวกันเป็นอันเดียวกัน
 
         
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นตัวบ่งบอกว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่อึดอัดกับหลายสิ่งหลายอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลต้องทำตามข้อเรียกร้องทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พยายามจะมาบอกว่า รัฐบาลไม่สนใจ ไม่ฟังคำขู่ มันเป็นความอึดอัดที่เกิดขึ้นจริง และในสังคมประชาธิปไตยนี้ ถ้าได้มีการพูดคุยกัน ก็ต้องหาทางออกร่วมกัน เพราะมันวนเวียนอยู่ไม่กี่ข้อ แล้วส่วนใหญ่ก็คือ ความกังวลที่ว่ารัฐบาลนั้นกำลังทำผิดกฎหมาย หรือทำผิดรัฐธรรมนูญ ถ้ารัฐบาลละเว้นจากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายแล้ว เพราะมันเป็นสิทธิ์ของรัฐบาล เขาได้เสียงข้างมากมา เขาจะผลักดันนโยบาย ถ้าเสียหายเขาก็ต้องรับผิดชอบทางการเมือง เราก็มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นคัดค้าน
               
          “ เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลหยุดพัก 4 วัน มีเวลาตั้งหลัก นั่งคิด ตัดสินใจได้แล้วละว่า มันถึงเวลาที่จะต้องปลดปล่อยรัฐบาลออกมาจากปัญหาเหล่านี้ด้วยการประกาศจุดยืนให้ชัด ไม่นิรโทษกรรมคนโกง ไม่นิรโทษกรรมคนก่อการร้าย ไม่คิดจะล้มล้างรัฐธรรมนูญ ไปยึดอำนาจขององค์กรอิสระของศาล จะเดินหน้าแก้ปัญหาของประเทศ แล้วทำตามนี้ผมว่าก็อยู่ได้ครับ 4 ปี ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ส่วนจะอยู่ได้แล้วแก้ปัญหาดีแค่ไหน ก็พิสูจน์ฝีมือกันไปเลย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว



 

"มาร์ค" สอน "รบ." วาระพิจารณาเข้าสภา 1 ส.ค. ต้องแถลงผลงานก่อน

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทางบูลสกาย เคเบิ้ลทีวี ถึงการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 1 ส.ค.ว่า จุดยืนของประชาธิปัตย์คือ รัฐบาลควรแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีก่อน การแถลงผลงานยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะเมื่อครบ 2 ปีรัฐบาลก็ต้องเตรียมทำรายงานครบ 2 ปี มาให้เราอีก การแถลงผลงานถือเป็นโอกาสที่จะให้สมาชิกสภาสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลก็ควรจะรับฟังและชี้แจง แล้วก็ดูว่าเมื่อสมาชิกมีความเห็นเป็นอย่างนี้แล้ว งานของสมัยประชุมน่าจะเดินอย่างไร ส่วนเรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม ควรจะพักไว้ก่อน แล้วก็เอาเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องวิธีการจัดสรรนโยบายงบประมาณ มาว่ากันไปตามปกติ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
               
          ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า จะเปิดประชุมสมัยสามัญวันที่ 1 ส.ค.ซึ่งก็ตรงกับวันพฤหัสบดี ซึ่งจะเปิดมาด้วยเรื่องของกระทู้ถามสด แล้วต่อด้วยกระทู้ถามทั่วไป หลังจากกระทู้ถามทั่วไปซึ่งปกติจะเสร็จ แต่ก็มีประเด็นอยู่ว่า จะมีการพิจารณาอะไรต่อหรือไม่ หากไปเริ่มต้นเรื่องใหม่โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ มันไม่จบ และพอจบตรงนั้นแล้ว บางครั้งวิปจะเสนอเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ ซึ่งอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง แล้วก็มีผลในการพิจารณาวันนั้นเลย เพราะข้อบังคับของสภาระบุว่าถ้าเป็นเรื่องกฎหมาย เลื่อนขึ้นแล้วให้พิจารณาในครั้งต่อไป คือ เขาไม่ต้องการให้กฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่สมาชิกต้องดูรายละเอียด หยิบขึ้นมาแล้วพิจารณากันเลย ถ้าหยิบขึ้นมาก็ต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกกลับไปดู แล้วมาประชุมครั้งต่อไป ถึงจะเริ่มต้นได้ แต่ข้อบังคับนั้นก็มีข้อยกเว้นคือ สมมติว่าอยากจะทำจริงๆ หยิบกฎหมายขึ้นมาพิจารณาเลย ก็ต้องขอยกเว้นข้อบังคับ ซึ่งถ้าเขาขอยกเว้นข้อบังคับ ก็จะต้องใช้มติ 2 ใน 3 ซึ่งบางทีรัฐบาล หรือฝ่ายไหนก็ตามก็จะมีปัญหาในการได้เปรียบตรงนั้น
               
          ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยหลักแล้ววิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลต้องหารือร่วมกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปกติแล้ว ถ้าหารือร่วมกันคุยกันรู้เรื่อง ก็ไม่ต้องลงมติ แต่ส่วนใหญ่พอเป็นเรื่องที่มีปัญหาก็จะคุยกัน แล้วก็ตกลงกันไม่ได้ ทางวิปก็มักจะบอกว่าให้สภาตัดสิน ก็คือเสียงข้างมากดังนั้นวันที่ 1 ส.ค.นี้ เท่าที่ฟังเสียงตอนนี้ เหมือนกับอาจจะเป็นเรื่องกระทู้ถามอย่างเดียว เพราะดูเหมือนทุกคนจะพุ่งเป้าไปวันที่ 7-8ส.ค.และวันที่ 14-15 ส.ค.ว่า จะเอาเรื่องไหนอย่างไรก่อน
               
          ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า  แต่ตามวาระที่เรียงไว้แล้ว เรื่องที่มาอันดับ 1 คือ กฎหมายของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เพราะในปลายสมัยประชุมครั้งที่แล้ว สภาได้มีมติเลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แต่ปกติแล้วถ้ามีเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ปกติจะบรรจุไว้ก่อน เพราะกฎหมายจะได้เสร็จ คือกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ก็จะเอามาก่อน เพื่อจะได้ส่งต่อไปให้วุฒิสภาได้พิจารณา ดังนั้นกฎหมายที่คาดว่าจะมีรายงานของกรรมาธิการเสร็จ น่าจะเป็นกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้าน 
               
          หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ในเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม อาจจะต้องดูว่านิรโทษกรรมใคร เพราะมีความหลากหลายของกฎหมายหลายฉบับ และตกลงจะเอากฎหมายฉบับไหนก่อน ฉบับไหนหลัง ส่วนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมหมายของนายวรชัยนั้น ก็จะมีประเด็นเพิ่มเติมอีกว่า เพราะมีกฎหมายที่อ้างว่าเป็นเรื่องทำนองเดียวกันอีก 6 ฉบับ ที่รออยู่ ไม่รู้จะพ่วงเข้ามาด้วยหรือไม่ อันนั้นก็เป็นประเด็น
               
          นายอภิสิทธิ์  กล่าวว่า  ส่วนงบประมาณนั้น เขาตั้งใจกันตามกำหนดการเดิมก็คือ กรรมาธิการทำงานเสร็จ ส่งให้สภา จะพิจารณากันวันที่ 14-15 ส.ค.ถ้าอยากจะเอามาเป็น วันที่7-8ส.ค. ก็ต้องเร่งการทำงานของกรรมาธิการ ตนมองว่าไม่ง่าย ซึ่งถ้าหลีกเลี่ยงเรื่องที่มีความขัดแย้ง เช่น รัฐธรรมนูญ ม.68 ได้ก็ดี แล้วงบประมาณก็ว่ากันไปตามปกติคือ 14-15 ส.ค. ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ควรจะมาพิจารณาในภาคใหญ่ ส่วนการนิรโทษกรรมที่ตนยืนยันคือ รัฐบาลถอนทุกฉบับออกไป แล้วมาตั้งวงคุยจากฉบับของภาคประชาชน น่าจะเหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 2 เรื่อง ที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คือ เรื่องรัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมของ 2 สภา และยังไม่ได้กำหนดตายตัวว่าจะประชุมวันไหน ทั้งนี้ล่าสุดมีข่าวว่าวันที่ 6-7 ส.ค.จะเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ เรื่องของวุฒิสภา แต่ยังไม่ได้ชัดเจนว่ารายงานของทั้ง 3 ชุดแล้วเสร็จหมดหรือไม่ 
               
          ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ตั้งข้อสังเกตโดยระบุว่านายอภิสิทธิ์ตกหลุมพรางเห็นด้วยกับร่างประชาชนนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าขั้นตอนขณะนี้คือเราเรียกร้องว่า ฉบับอื่นต้องถอนออกมาให้หมดก่อน แล้วมาไล่เรียงตามฉบับนี้ว่าอะไรที่ควรนิรโทษกรรม และที่ยังไม่เห็นด้วยกับเขาก็คือ 1.คนอาจจะไปตีความให้รวม ม.112  2.เขาเขียนไว้เฉพาะเผาทรัพย์สินเอกชน ซึ่งตนไม่เห็นด้วย 3.วิธีเขียน ที่นายคำนูณ คลางแคลงใจว่าจะทำให้เป็นการนิรโทษกรรมเสื้อแดงกลุ่มเดียว ก็มาทำให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ก็ยังไม่เห็นมีหลุมพรางอะไร เพราะถ้าไม่มาคุยกันในเรื่องแบบนี้ พวกตนก็ไม่เสนอกฎหมายเข้าสภาอยู่แล้ว จนกว่าเขาถอนทุกอย่างออกหมด และเพื่อไม่ให้มีปัญหาก็ควรมากันนอกรอบให้จบ แล้วเสนอร่วมกัน
               
          “ การที่เราไม่ยอมรับเลย ในเรื่องของการนิรโทษกรรมนั้น มันจะทำให้ฝ่ายคุณทักษิณเอาประชาชนเป็นตัวประกันบังหน้าไม่จบไม่สิ้น นี่เป็นโอกาสดีที่สุดแล้วที่จะแยกให้เห็นว่า ระหว่างคนที่ตั้งใจจะช่วยประชาชนธรรมดา กับคนที่จะเอาผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วก็แอบอยู่ข้างหลังประชาชนนั้นเราจะเลือกอะไร ถ้ารัฐบาลเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภาเป็นวาระแรกๆ แล้วเอากฎหมายอื่นๆ เข้าไปผสมด้วย ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคัดค้าน เหมือนเดิมทุกประการ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์