“กัมพูชา”พร้อมเปิดประเทศประชาคมอาเซียน

“กัมพูชา”พร้อมเปิดประเทศประชาคมอาเซียน

ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันนี้ (18 มี.ค.) นางลดาวัลย์ บัวเอี่ยม รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์

พร้อมคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะนายเขียว กัญญาฤทธิ์ รมว.ข่าวสารกัมพูชาและนายไพ สีพาน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในโครงการแลกเปลี่ยนการเยือนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ด้านสารสนเทศ วิทยุโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ ระหว่างวันที่ 12-16 มี.ค.ที่ผ่านมา

นายเขียว กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาว่า กัมพูชากับไทยเป็นเหมือนญาติพี่น้องที่สนิท เพราะวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศคล้ายคลึงกันมาก

  แม้ว่าจะมีสถานการณ์ตึงเครียดบ้าง แต่ด้านสื่อ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดมา ทั้งนี้ 3 เดือนที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าเรายังมีปัญหาข้ามแดนระหว่างคนไทยและกัมพูชา สถานีโทรทัศน์กัมพูชาออกอากาศรายการโทรทัศน์ของไทยทุกเรื่อง ตนอยากเสนอให้ฝ่ายไทยได้นำรายการของกัมพูชาไปเผยแพร่ที่ไทยบ้าง เพื่อให้ประชาชนกัมพูชาที่อยู่ในไทยได้รับข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราได้รับข้อมูลจากหลายแห่ง ซึ่งไม่รู้ว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้ารัฐบาลไทยสามารถตั้งศูนย์ติดต่อประสานงานร่วมกับกระทรวงข่าวสารกัมพูชาก็จะทำให้ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ซึ่งการกระจายข้อมูลข่าวสารที่ได้ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องการเมืองเท่านั้น แต่เป็นเรื่องภัยธรรมชาติต่างๆที่ประชาชนทั้งสองประเทศควรได้ทราบอย่างทั่วถึง และในปีค.ศ.2015 เป็นปีเปิดประเทศประชาคมอาเซียน การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศที่จะต้องดำเนินการขึ้นร่วมกันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก


ด้านนายไพ กล่าวว่า เรามีหลักการในการทำงานคือรักษาเสถียรภาพการให้ข่าวสารไทย-กัมพูชา แม้บางครั้งจะทะเลาะกันบ้าง
 
สมเด็จฯฮุนเซนไม่อยากให้มีปัญหาเลือดตกในพื้นที่ต่างๆ พยายามทุกวิธีทางป้องกันการทะเลาะตามแนวชายแดน ซึ่งจะต้องลดความขัดแย้งและขยายความสัมพันธ์ภาพ โดยสมเด็จฯฮุนเซนได้กล่าวกับครม.ไว้ว่าอยากจะปิดประวัติศาสตร์ที่มืดมน และต้องการเปิดประวัติศาสตร์ใหม่ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยยุติทุกปัญหา  เพื่อให้ลูกหลานอยู่ด้วยกันได้นานๆ
 

ขณะที่นางลดาวัลย์ กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารนั้นไทยดำเนินการตามกรอบอาเซียน การเผยแพร่สถานการณ์กัมพูชานั้น
 
ตนคิดว่าทางเคเบิ้ลทีวีสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว แต่จะนำข้อเสนอไปดังกล่าวนี้ไปเสนอต่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการในเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป ส่วนการจัดตั้งศูนย์ประสานงานนั้น เดิมเคยมีการก่อตั้งแต่ได้ยกเลิกไป แต่ตอนนี้หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ ตนคิดว่าผู้นำและผู้ใหญ่ทั้งสองประเทศรู้จักกันสามารถโทรศัพท์ถึงกันได้ เพื่อทราบความเข้าใจและรายละเอียด ขณะนี้เทคโนโลยีก้าวล้ำ มีทั้งสถานีโทรทัศน์ และเว็บไชต์ต่างๆ กัมพูชาต้องการให้แลกเปลี่ยนข่าวสารอย่างใกล้ชิด เราอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน อีกไม่กี่ปีก็จะเปิดประเทศอาเซียน ซึ่งเราต้องส่งเสริม 3 หลักการ ได้แก่ 1.ด้านการเมืองและความมั่นคง 2.ด้านเศรษฐกิจ และ 3.ด้านสังคมวัฒนธรรม หากไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่เข้าใจกัน 10 ประเทศอาเซียนคงจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขณะนี้ความเจริญมาอยู่ในซีกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้ภูมิภาคของเรามีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น.

 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์