ปลอดประสพแขวะมาร์คยอมแพ้ดีกว่า

“ปลอดประสพ”แขวะ “อภิสิทธิ์” โยนผ้ายอมแพ้ดีกว่า "เฉลิม" มั่นใจ พท.ชนะได้เสียงเกินครึ่ง "ยิ่งลักษณ์" นั่งนายกฯแน่นอน "อภิสิทธิ์"ปราศรัยที่ภูเก็ตพื้นที่แรกพร้อมเปิดตัวผู้สมัครในภาคใต้ "ปุระชัย" ไม่หวั่นผลโพลล์ คะแนนนิยมต่ำกว่า "ชูวิทย์" บอกยังมีเวลาหาเสียง

 (27 พ.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ถูกวางตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรีปรองดองว่า เป็นความสุขของคนแก่ก็ไม่ว่ากัน แต่ตัดไปได้เลยว่านายกรัฐมนตรีนั้นจะไม่ได้มาจากพรรคการเมืองเล็ก เพราะหากพรรคเล็กมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำให้รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลทำตัวเหมือนเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง เพราะมีอำนาจต่อรองสูงเพื่อพรรคพวกตัวเอง ไม่ใช่ต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ทั้งพรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่างก็สนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

 ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าถ้าพรรคแพ้เลือกตั้งมีแนวทางอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรนั้น ดูจากสีหน้าของนายอภิสิทธิ์ระหว่างหาเสียงแล้ว เหมือนโหยและเหนื่อย อยากให้ทำความดีครั้งสุดท้ายโดยการโยนผ้ายอมแพ้จะดีกว่า แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ คนเราต้องรู้จักพอแล้วปล่อยให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศสัก  4-8  ปี ไปเป็นฝ่ายค้านคอยตรวจสอบรัฐบาลและช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ


"เฉลิม"เปิดบ้านทำบุญวันเกิดมั่นใจพท.ชนะได้เสียงเกินครึ่ง

 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดบ้านทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด 63 ปีร่วมกับครอบครัวอยู่บำรุง โดยบรรยากาศมีเพียงสมาชิกในครอบครัว และคนสนิทในครอบครัว ร่วมกันตักบาตร โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ไม่มีการจัดเลี้ยงเหมือนปีที่ผ่านๆ มา และเมื่อตักบาตรเสร็จ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ขึ้นรถปราศรัยหาเสียงต่อ

  โดยก่อนตักบาตร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนที่สูงสุด ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการเดินทางปราศรัยต่างจังหวัดมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะและได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน  ดังนั้น ในประเด็นที่ทางนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่สามารถเป็นนายกฯ ก็คงไม่เป็นได้ยากตามที่นายเนวินระบุ

 "ผมหนักใจแทนคุณยิ่งลักษณ์ ที่อาจจะถูกโจมตีหลังจากที่พบว่ามีคะแนนนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  ซึ่งหลังจากนี้ ต้องหาวิธีคุมคะแนนให้ได้ ส่วนคุณยิ่งลักษณ์จะตั้งทีมเพื่อปกป้องหรือไม่ผมไม่ทราบ เพราะเขาไม่ได้ใช้ผม สมมติพรรคเพื่อไทย ชนะประชาธิปัตย์เกิน 30 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ต้องไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง เพราะประชาชนมีประชามติแล้ว แต่เหตุที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถตั้งรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ได้นั้น เพราะว่าพรรคพลังประชาชนถูกยุบ และทางพรรคไม่ได้ชูบุคคลภายในพรรคขึ้นมาเป็นนายกฯแข่ง แต่ 2 ปีที่ผ่านมาประชาชนรู้อะไรเป็นอะไร" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

 ถามว่า ประเมินอย่างไรกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ เสนอให้นายอภิสิทธิ์ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หากแพ้การเลือกตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเข้าไปแทรกแซงภายในพรรคการเมืองอื่นไม่ได้ ถ้าทำเช่นนั้น ถือว่าจะไม่มีมารยาททางการเมือง ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า หากพรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะไม่เลือกพรรคภูมิใจไทยมาร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน รวมถึงบุคคลบางกลุ่มในพรรคภูมิใจไทย

 ถามว่า ในวันคล้ายวันเกิดต้องการอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า  หากการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเกินครึ่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ควรตั้งรัฐบาลแข่ง ขอให้เป็นไปตามระบบ

 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นประชาชนในพื้นที่ กทม.ต่อผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ของโพลล์ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ว่า เห็นได้ชัดเจนว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยากให้นายอภิสิทธิ์พิจารณาตามคำที่เคยพูดว่าสนามเลือกตั้ง กทม.จะตัวชี้วัดรัฐบาล ซึ่งตนมองว่าสามารถเป็นตัวชี้วัดได้จริงๆ

 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ตนทราบว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ให้ฝ่ายกฎหมายนำคำปราศรัยของตนมาพิจาณาว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ หลังจากที่ตนขึ้นปราศรัยบนเวทีว่าจะสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดที่วางตัวไม่เป็นกลางให้ไปเป็นผู้ตรวจ ซึ่งตนยืนยันว่า คำปราศรัยดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย เพราะตนยังไม่มีอำนาจ อีกทั้งในข้อเท็จจริงมีข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง


"อภิสิทธิ์"ปราศรัยที่ภูเก็ตพื้นที่แรกพร้อมเปิดตัวผู้สมัครในภาคใต้

 ช่วงเย็นทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของภาคใต้ นำทีมโดยนายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นต้น ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โอกาสเดียวกันนี้ยังได้เปิดตัวผู้ลงสมัคร ส.ส.ภาคใต้ทั้งหมด

 อย่างไรก็ตามเวลาประมาณ 15.20 น. นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะจะเดินทางไปตรวจสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ที่บริเวณ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง หลังจากนั้นจะเดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง ที่บ้านท่าฉัตรไชย และตลาดบ้านลิพอน อ.ถลาง ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 2 ก่อนที่จะเดินทางไปยังเวทีปราศรัยใหญ่ที่ปลายแหลมสะพานหิน

 นางอัญชลี วานิช เทพบุตร กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ตเขตเลือกตั้งที่ 1 กล่าวว่า เหตุที่ทางพรรคเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นเวทีแรกการหาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของภูมิภาคนี้ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการเปิดเวทีใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้อีกอย่างน้อย 1-2 ครั้ง หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ไม่ได้ลงมาก็จะมีนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นคนนำทัพแกนนำพรรคพบปะกับประชาชน ทั้งนี้คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก

 นายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการจัดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่ภูเก็ตนั้น ในส่วนของ กกต.จังหวัดภูเก็ตจะส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมสังเกตการณ์ และหากมีพรรคการเมืองอื่นๆ มาจัดเวทีปราศรัยใหญ่ก็จะดำเนินการเหมือนกัน


"ปุระชัย"ไม่หวั่นผลโพลล์ คะแนนนิยมต่ำกว่า"ชูวิทย์" 

 ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานพรรครักษ์สันติ และนายพันธุ์เลิศ ใบหยก ได้ลงพื้นที่ช่วยนายสิระ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งส.ส. เขตหลักสี่ หาเสียง กับชาวบ้านและผู้สูงอายุ โดยร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า ผู้สูงอายุในประเทศไทย มีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะไม่รู้จักการดูแลสุขภาพก่อนวัยชรา ดังนั้นรัฐบาลควรแนะนำให้มีการตรวจสุขภาพประจำทุกปี เพื่อให้ประชาชนดูแลสุขภาพและรักษาโรคภัยได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโรคมะเร็ง หากตรวจพบและรักษาตั้งแต่ต้นมีโอกาสหายขาด สำหรับประเด็นการช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพให้กับผู้สูงอายุนั้น ต้องดูแลให้มีความเป็นอยู่สมควรแก่ฐานะ ไม่ใช่ดูแลอย่างอนาถา

 ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวถึงกระแสตอบรับพรรครักสันติว่า เวลาลงพื้นที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แม้ว่าโพลล์หลายสำนักจะระบุว่า มีคะแนนนิยมต่ำกว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ตนก็ไม่กังวล เพราะมีเวลาหาเสียงอีก 30 วัน อย่างไรก็ตามรู้สึกดีใจการทำงานทางการเมืองเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เมื่อรู้ว่าพรรคอื่นได้รับการตอบรับเราก็ดีใจไปกับเขาด้วย โดยสิ่งที่ไม่อยากเห็นคือการขับไล่ไสส่ง การปาไข่ ปาสี ซึ่งไม่อยากให้เกิดกับพรรคการเมืองใดๆ



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์