ฟัน18แดง ธาริตไล่บี้คดีหมิ่นฯ

"ธาริต"อธิบดีดีเอสไอ เตรียมดำเนินคดี 18 แกนนำนปช. กระทำความผิดตาม "ม.112" หมิ่นสถาบัน และ "ม.116" ยุยงปลุกปั่น ส่วนวันจันทร์นี้จะไปพบศาล-อัยการทำเรื่องถอนประกัน 9 แกนนำนปช.

ฟุ้งพร้อมสอบกรณีเอกสารลับวิกิลีกส์อ้าง "ป๋าเปรม" หมิ่นเบื้องสูงเช่นกัน แต่ไม่เห็น "จตุพร" ติดต่อมาเสียที ด้าน "ณัฐวุฒิ" ดาวไฮด์ปาร์กเสื้อแดงไม่หวั่น บอกนปช.จะขึ้นโรงพัก 17 เม.ย.นี้ แจ้งความ "บิ๊กตู่" ผบ.ทบ. ฐานแจ้งความเท็จใส่ร้ายปราศรัยหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เตือนนายทหารใหญ่และรัฐบาลมาร์คหากจงรักภักดีจริงต้องมีสติ อย่าเอาเรื่องเบื้องสูงมาเป็นข้ออ้างทําลายฝ่ายตรงข้าม หวั่นวิกฤตลุกลามถึงขั้นประชาชนเผชิญหน้าแตกหัก "ขวัญชัย ไพรพนา" ขู่ถ้าแกนนปช.ถูกจับเมื่อไหร่ คนเสื้อแดงลุกฮือทั่วประเทศแน่ "นพดล" จวกปชป.ใช้วิธีโบราณใส่ร้าย "ทักษิณ" สั่งการจาบจ้วงสถาบัน

งัด"ม.112"เล่นงาน 18 นปช.

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินคดีกับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า จากการตรวจสอบคลิป ภาพถ่าย คำพูดของบุคคลผู้เข้าร่วมปราศรัยแล้ว เบื้องต้นมีผู้เข้าข่ายน่าจะถูกดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มาตรา 112 คือ หมิ่นสถาบัน และมาตรา 116 คือ ยุยงปลุกปั่นให้มีการล่วงละเมิดกฎหมาย จำนวน 18 คน ทั้งในฐานะตัวการและผู้ร่วมสนับสนุน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการตรวจสอบต่อเนื่องจากนี้จะทำให้มีผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันเพิ่มขึ้นอีกหลายราย

ถอนประกัน 9 แกนนำ

นายธาริต กล่าวต่อว่า วันจันทร์ 18 เม.ย. นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะไปยื่นขอถอนประกันตัวแกนนำนปช.ที่ไปร่วมชุมนุมวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งเป็นตัวการหรือผู้ร่วมสนับสนุน และเป็นบุคคลที่ได้รับการประกันตัวคดีก่อการร้ายจากศาลไปก่อนหน้านี้ 9 คน ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, น.พ.เหวง โตจิราการ, นายยศวริศ ชูกล่อม, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายนิสิต สินธุไพร, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และนายขวัญชัย ไพรพนา โดยดีเอสไอจะยื่นขอถอนประกันทั้งที่ศาลและอัยการ

"ธาริต"ฟุ้ง-พร้อมสอบป๋าเปรม

อธิบดีดีเอสไอ ระบุส่วนกรณีนายจตุพร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช. ระบุว่า จะเดินทางมาร้องเรียนดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ข้อหาหมิ่นเบื้องสูงจากข้อมูลที่เว็บไซต์วิกิลีกส์นำมาเปิดเผยนั้น ดีเอสไอไม่ขัดข้องหากจะมีการยื่นเรื่องร้องเรียนพล.อ.เปรม แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากนายจตุพร

"เทพไท"ซัดแม้วหมิ่นสถาบัน

เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความในทวิตเตอร์ เรียกร้องทุกฝ่ายหยุดสาดโคลนและหยุดอ้างอิงถึงสถาบันเบื้องสูงว่า อยากชี้แจงว่าพ.ต.ท. ทักษิณออกมาเรียกร้องบุคคลอื่น ทั้งที่ตนเอง สมุน และลิ่วล้อ มีพฤติกรรมตรงข้ามกับข้อเรียกร้องพ.ต.ท.ทักษิณตลอดเวลา อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปดูพฤติกรรมตัวเองก่อนว่าเคยจาบจ้วงล้วงละเมิดต่อสถาบันเบื้องสูงหรือไม่

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า อย่างน้อย 5 เหตุการณ์ พ.ต.ท. ทักษิณต้องกลับไปทบทวนดูคือ 1.จวบจ้วงสถาบันที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กับการชุมนุมรถแท็กซี่ที่กทม. 2.สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในรายการนายกฯ ทักษิณพบประชาชน 3.สัมภาษณ์นิตยสารต่างประเทศไฟแนนเชี่ยลไทม์ 4.สัมภาษณ์หนังสือ พิมพ์นิตยสารเดอะวอลล์สตรีตเจอร์นัล 5.นิตยสารไทมส์ออนไลน์ ทั้งหมดไม่นับรวมถึงโฟนอินในต่างประเทศให้คนเสื้อแดงและนปช. ซึ่งมีพยานหลักฐานชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง แต่เพียงว่าเรื่องดังกล่าวไม่ควรนำมาเผยแพร่

แสดงบทผู้ร้ายในคราบผู้ดี

"วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณพยายามแสดงบทผู้ร้ายในคราบผู้ดี โดยพยายามเรียกร้องให้คนอื่นเห็นว่าตนเองจงรักภักดี และเรียกร้องให้คนอื่นละเว้นพฤติกรรมดังกล่าว อยากให้พ.ต.ท. ทักษิณกลับไปดูพฤติกรรมของพวกพ้องโดยเฉพาะเครือข่ายนปช.ยูเอสเอ กลุ่มแดงสยาม รวมถึงพฤติกรรมนายจักรภพ เพ็ญแข นายใจ อึ๊งภากรณ์ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณจะออกมาปฏิเสธคิดว่าเป็นพฤติกรรมขว้างงูไม่พ้นคอ จึงอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับไปติดตามว่าเครือข่ายเหล่านี้ยังมีความเคลื่อนไหวในสื่อต่างๆ หรือไม่ เช่น ในเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ ซึ่งรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงไอซีทีติดตามปิดเว็บไซต์จำนวนมาก แต่ยอมรับว่ายุคนี้เป็นยุคข่าวสารไร้พรมแดน จึงยากที่จะปิดเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบัน เพราะเทคโนโลยีเปิดง่าย ปิดแล้วไปเปิดที่อื่นได้อีก จึงอยากเรียกร้องว่าทั้งหมดที่มีการเคลื่อน ไหวเพื่อจาบจ้วงสถาบันควรยุติได้แล้ว" นายเทพไท กล่าว

"พท."โต้ไก่อู-เตือนประยุทธ์

เวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการหารือของคณะทำงานการเมืองความมั่นคง และคณะที่ปรึกษาด้านการทหารความมั่นคงของประเทศของพรรค ที่มีนายทหารและตำรวจ รวมทั้งข้าราชการระดับปลัดกระทรวงและอธิบดี ร่วมหารือถึงสถานการณ์ของกองทัพ ว่า ที่ประชุมเป็นห่วงวิกฤตของกองทัพ และมองว่าผู้มีอำนาจกำลังต้องการเปลี่ยนผู้เล่นใหม่ จากพรรคบางพรรคที่ไม่มีผลงานแต่ทำให้ประเทศเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง เกิดแก๊งสวาปาล์ม มุ่งเป้ามาที่กองทัพเป็นคำตอบสุดท้าย โดยท่าทีของผู้นำกองทัพบางคนพยายามให้ทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ที่ประชุมพูดคุยและต้องการเตือนสติพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่าอาจจะคุมทหาร ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาไม่อยู่ แต่ไม่กังวลเรื่องการปฏิวัติ

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ระบุมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังคนเสื้อแดงนั้น เป็นการพูดเพื่อสร้างความแตกแยก เหมือนครั้งที่ประกาศแผนผังขบวนการล้มเจ้า เป็นการพูดตามจินตนาการของพ.อ.สรรเสริญ ซึ่งจะแบ่งประชาชนออกเป็นฝักฝ่าย ถามว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีพรรคการเมืองหรือไม่ และหากมีคนชี้นิ้วไปที่กองทัพบ้างว่าอยู่เบื้องหลังเรื่องต่างๆ จะรู้สึกอย่างไร

อย่าผูกขาดความจงรักภักดี

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า คณะทำงานหารือกันว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีความชัดเจนอยู่แล้วว่ามีความจงรักภักดีไม่น้อยไปกว่ากัน ประชาชนทุกคนมีอยู่ในใจและงานการเมืองที่ดูแลปากท้องกับการจงรักภักดี กองทัพไม่ควรเอามาเกี่ยวกันและไม่บังควรอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทยมีข้าราชการระดับสูง ทั้งปลัดกระทรวง นายทหารรุ่นพี่ ระดับพลเอก ที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทจำนวนมาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวันนี้ทหารรุ่นน้องบางคนในกองทัพทำแบบนี้ใช้ไม่ได้ จะโอเวอร์แอคติ้งโชว์ความจงรักภักดีอยู่คนเดียว นายทหารบางคนในที่ประชุมระบุว่า โฆษกทบ. และผบ.ทบ. แม่ทัพภาค 1 จะพูดอะไรต้องคิดให้มาก อย่าพูดเอามัน หรือเอาใจใครบางคน ให้มองคนทั้งประเทศ ไม่ใช่กองทัพบกจะมาผูกขาดความจงรักภักดีฝ่ายเดียวแล้วผลักประชาชนไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม

ไล่ไปดูแล"ทหารชั้นผู้น้อย"

"หากใครผิดก็ให้ตำรวจดำเนินคดี ไม่ใช่ผบ.ทบ.สั่งลูกน้องไปแจ้งความ ผบ.ทบ.เท่ากับตบหน้าผบ.ตร.ฉาดใหญ่ ที่สำคัญกองทัพควรเช็คเสียงเหล่าทัพให้ดี อย่าคิดว่าทหารจะเข้าข้างทั้งหมด กองทัพควรสร้างความสามัคคี ความยุติธรรม ไม่ใช่ให้กลุ่มนี้ทำได้ กลุ่มนี้ทำไม่ได้ ส่วนผู้บังคับบัญชาควรไปดูแลทหารชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้รับการเอาใจใส่ เพราะไม่ใช่สายบูรพาพยัคฆ์สายเดียวกับผู้นำ และทำเรื่องที่ประชาชนสงสัยว่าใครยิงประชาชนในการสลายการชุมนุมมากกว่า" นายจิรายุ แถลง

"เทือก"โยนทักษิณจอมบงการ

เวลา 14.30 น. ที่โรงเเรมอินเตอร์คอนติเนนตัล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะฟ้องยุบพรรคเพื่อไทยในคดีหมิ่นสถาบัน หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. ฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช.ในคดีเดียวกันแล้วว่า ต้องแยกกันว่า เรื่องจริงคือความชัดเจนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนสั่งการในเรื่องต่างๆ และหลายเรื่อง เช่น สั่งการให้โหมประโคมข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะถล่มทลาย และเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเพื่อปั่นกระแสให้คนเข้าใจผิด

นายสุเทพกล่าวว่า ต่อมาคือสั่งให้โจมตีองคมนตรี และนายกรัฐมนตรี จากนั้นกระทำเรื่องอันไม่สมควร เรื่องเหล่านี้ตนติดตามข่าวคราว พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเรื่องที่พ.ต.ท. ทักษิณทำจริง ส่วนเรื่องรัฐบาลจะไปดำเนินการกับพ.ต.ท. ทักษิณในเรื่องยุบพรรค ยืนยันยังไม่คิดไปถึงขั้นนั้น วันนี้ขออย่างเดียวหยุดกระทำในสิ่งไม่สมควรและไม่ต้องตีสองหน้า ให้ลูกน้องออกมาทำในเรื่องไม่สมควร แต่คนเห็นกันทั้งเมือง

"เสื้อแดง"มุ่งหาเรื่องกองทัพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แม่ทัพภาคที่ 1 เรียกร้องให้ทุกคนประณามคนหมิ่นสถาบัน นายสุเทพกล่าวว่า สมควรประณามจริงๆ เพราะเป็นเรื่องไม่สมควรกระทำ แต่กลับกระทำกัน อยากถามว่าทำไปทำไม หากจะหาเสียงก็หาเสียงไป มีเรื่องอื่นเยอะแยะที่จะพูด แต่สิ่งที่กระทำออกมานั้นมันทำร้ายจิดใจคนไทย

เมื่อถามว่า ทำไมช่วงคนเสื้อแดงมุ่งโจมตีกองทัพมากกว่าโจมตีฝ่ายการเมืองเพื่อโยงถึงรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า นั่นสิ ตนจึงพูดว่าเหตุผลเป็นเพราะอะไร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ระบุว่าจะยุบสภาไม่เกินวันที่ 7 พ.ค. เมื่อบอกไปแล้วทุกคนควรเตรียมตัวเลือกตั้งและไปหาเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ทำไมต้องไปหาเรื่องกองทัพหรือกระทำสิ่งไม่สมควร หรือต้องการสร้างกระแสเป็นเครื่องมือปลุกระดมประชาชนว่า กองทัพคิดปฏิวัติ ฉะนั้นประชาชนต้องลุกขึ้นมาร่วมต่อต้านการปฏิวัติด้วยกัน ทั้งหมดเป็นการกระทำที่มีแผนแยบยล ไม่ตรงไปตรงมา

ยันเดินหน้าเลือกตั้งแน่นอน

ต่อข้อถามว่า คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจะทำให้บ้านเมืองไม่สงบ และอาจไม่มีการเลือกตั้งได้หรือไม่ และคนเสื้อแดงพยายามสร้างกระแสบางอย่าง นายสุเทพตอบว่า ไม่มี จะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน ยกเว้นนปช. จะลุกขึ้นดำเนินการอย่างที่เคยทำเมื่อสองปีที่แล้ว คือ เผาบ้านเผาเมืองอีก แต่ตอนนี้เราพยายามทำให้บรรยากาศเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง และตนไม่ทราบว่านปช. มีจุดประสงค์ใด แต่พยายามมองทุกอย่างในแง่ดีไว้ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่นปช. ไม่ต้องการการเลือกตั้งและพยายามจุดกระแสบางอย่างขึ้น นายสุเทพระบุว่า "ผมคิดว่าบริวารของพ.ต.ท.ทักษิณทำหลายเรื่องไปพร้อมๆ กัน ทางหนึ่งโหมกระแสเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง อีกทางกระทำเผื่อไว้ว่าหากพรรคแพ้จะทำอย่างไร และอีกทางหนึ่งคือดำเนินการนอกสภาควบคู่กัน"

โต้รบ.โหมข่าวหมิ่นสถาบัน

เมื่อถามต่อไปว่า พรรคฝ่ายค้านวิจารณ์ว่ารัฐบาลโหมเรื่องการหมิ่นสถาบัน แทนที่จะปล่อยให้ตำรวจดำเนินการและไม่ควรให้ข่าวใส่ร้ายกันไปมา นายสุเทพกล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า "ทำไม ผมเป็นคนไทยจะต้องยอมให้คุณทักษิณทำร้ายพวกผม คนไทย ทั้งประเทศฝ่ายเดียวหรืออย่างไร คนอื่นต้องอดทนกับคุณทักษิณไปถึงไหนนักหนา"

ต่อข้อถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุกองทัพกระทำแบบนี้เท่ากับว่ากองทัพยุ่งเกี่ยวกับการเมือง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ กองทัพไม่ได้ยุ่งการเมืองและมีหน้าที่ปกป้องสถาบัน ทหารมีการถวายสัตย์ปฏิญาณ และมีหน้าที่ต้องดูแล มันเป็นเรื่องความมั่นคงของบ้านเมือง ขอย้ำอีกครั้งว่าเรื่องนี้เป็นความมั่นคงของบ้านเมือง

เผยแปล"วิกิลีกส์"แจกแดง

นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังทราบข่าวนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เตรียมยื่นขอถอนประกันตัวนายขวัญชัย รวมถึงดำเนินคดีแกนนำนปช. รวม 18 ราย ว่า ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตนไม่ให้ราคานายธาริตอยู่แล้ว มองว่าเป็นเกมที่เรารู้กันดีว่ามีความพยายามเอาตัวแกนนำเสื้อแดงกลับเข้าคุกให้ได้ เนื่องจากใกล้เลือกตั้ง รัฐบาลจึงกลัวคนเสื้อแดงจะไปพูดความจริงให้ประชาชนรับรู้จึงพยายามสกัดกั้นทุกทาง แม้แต่การอ้างเรื่องสถาบันมากล่าวหาคนเสื้อแดง เราก็ไม่มีสิทธิ์ตอบโต้เพราะสื่อทีวีถูกรัฐชี้นำหมด คนเสื้อแดงมีเพียงประชาชนเท่านั้นที่เป็นพยานให้ได้

"ขณะนี้คนเสื้อแดงกำลังแปลเอกสารลับที่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริการายงานกลับประเทศ และถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ วิกิลีกส์เป็นภาษาไทย เพื่อจะแจกจ่ายให้กับคนเสื้อแดงทั่วประเทศนำไปดำเนินคดีกับพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในข้อหาหมิ่นสถาบันเช่นกัน" นายขวัญชัย กล่าว

"ขวัญชัย"ลั่นถูกจับ-แดงฮือ

นอกจากนั้น นายขวัญชัย ยังระบุว่า สำหรับเรื่องรัฐประหารตัดทิ้งไปได้เลย ตนเชื่อว่าทหารไม่กล้า เพราะจะเจอแรงต้านเยอะ เช่นเดียวกันหากมีการคุมขังแกนนำคนเสื้อแดง หรือใครคนใดคนหนึ่งโดนจับอีกครั้งจะเกิดความรุนแรงแน่นอน คนเสื้อแดงไม่ยอมแน่ โดยจะลุกฮือทุกจังหวัด จะไม่มารวมตัวที่กรุงเทพฯ เป็นจุดเดียวแล้ว ดังนั้นวันนี้กองทัพและอำมาตย์ต้องคิดให้หนักเพราะประชาชนเริ่มตาสว่างแล้ว

"ตู่"นำทีมแจ้งความ"ประยุทธ์"

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนํานปช. กล่าวว่า วันที่ 17 เม.ย. เวลา 13.00 น. นายจตุพรพร้อมด้วยนายสุพร อัตถาวงศ์ และนายวิเชียร ขาวขำ จะเดินทางไปสน.สำราญราษฎร์ เพื่อแจ้งความดําเนินคดีพล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. และนายทหารระดับสูงอีกหลายราย ข้อหาแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์กล่าวหาแกนนํานปช.ทั้ง 3 ว่าปราศรัยพาดพิงหมิ่นพระบรมเดชานุภาพครั้งที่ชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิเปิดเผยว่า สถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติทุกฝ่ายพร้อมเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งใหม่ แต่ทางกองทัพหยิบยกประเด็นกรณีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงออกมากล่าวหาคนเสื้อแดงกันเอิกเกริก ผบ.ทบ.เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งในกองทัพออกมากล่าวหาแบบนี้จะไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเรื่องของสถาบันเบื้องสูงควรจะแยกขาดจากกัน ไม่ควรเอามารวมกับการเมือง ทั้งนี้ หากรัฐบาลและกองทัพต้องการดําเนินคดีกับคนเสื้อแดงที่หมิ่นสถาบันก็ดําเนินการไป แต่อย่าพูดโจมตีใส่ร้ายป้ายสีคนเสื้อแดงรายวัน และอย่าเอาเรื่องสถานบันเบื้องสูงมาเป็นข้ออ้างทําลายฝ่ายตรงข้าม

นายณัฐวุฒิระบุว่า คนปกป้องสถาบัน จะต้องมีสติ จริงใจ ยิ่งออกมากล่าวหาคนเสื้อแดงโดยทําท่าทําทางเอาจริงเอาจังเท่าไหร่สังคมจะมีคําถามเหมือนกรณีวิกิลีกส์ของประธานองคมนตรีมากขึ้น และอย่าได้กล่าวหาเฉพาะฝ่ายตรงข้ามของตัวเองเท่านั้น ขณะที่กลับอีกฝ่ายไม่ยอมดําเนินการอะไรเลย แบบนี้เรียก 2 มาตร ฐาน

"ผมขอฝากเตือนสติบรรดานายทหารใหญ่ในกองทัพและรัฐบาล หากจงรักภักดีสถาบัน จริงต้องมีสติ ต้องปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา ไม่เลือกคนหรือเลือกฝ่าย" นักปราศรัยฝีปากกล้าของนปช. กล่าว

"ณัฐวุฒิ"หวั่นขัดแย้งแตกหัก

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทุกวันนี้ตนไม่มีความ วิตกกังวลใดๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของคนเสื้อแดง แต่เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองมากกว่า กลัวจะมีการเผชิญหน้ากันของประชาชน หากรัฐบาลและกองทัพยังไม่ได้สติแบบนี้ เอาสถาบันมากล่าวหาทางการเมืองกันมันจะกลายเป็นความแตกแยก กลายเป็นการเผชิญหน้ากันของประชาชนได้ทุกขณะ สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันไม่เหมือนกับสถานการณ์เดือนตุลาฯ 2519 เพราะปัจจุบันข่าวสารกระจายไปอย่างรวดเร็ว และโลกกำลังจับตาปัญหาการเมืองของเราอยู่ว่าจะไปทางไหน หากมีการเผชิญหน้าหรือแตกแยกกันจริงนี้เป็นสิ่งที่ตนห่วงที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมวันอังคารที่ 19 เม.ย. จะมีแนวทางอย่างไร จะยกระดับการเคลื่อนไหวหรือไม่ หลังจากกองทัพหยิบประเด็นหมิ่นสถานบันมากล่าวหาแกนนําคนเสื้อแดง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน และต้องประชุมหารือกับแกนนําทุกคนว่าจะเอาอย่างไร เมื่อถามว่าวันที่ 18 เม.ย. ดีเอสไอจะไปยื่นต่ออัยการเพื่อถอนประกันแกนนํา 9 คน นายณัฐวุฒิระบุว่า ขณะนี้ทีมทนายความนปช.พร้อมแล้ว หากดีเอสไอยื่นถอนประกันแกนนํา ทนายจะยื่นขออุทธรณ์ทันทีต่ออัยการ

ทักษิณปัดสั่งจาบจ้วง"สถาบัน"

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกแถลงการณ์กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้สั่งการเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันและโฆษกของพรรคประชาธิปัตย์ยังใส่ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณจาบจ้วงสถาบัน และกล่าวหาว่าถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย บ้านเมืองจะวุ่นวายขัดแย้งว่า ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิงว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้สั่งการให้ใครไปจาบจ้วงสถาบัน และพ.ต.ท.ทักษิณได้ทวีตข้อความว่าสถาบันอยู่เหนือการเมือง

ดังนั้น ข้อกล่าวหาของนายสุเทพและพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมือง และทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย เพราะทุกครั้งที่ผ่านในการเลือกตั้งทั่วไป พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะพรรคไทยรักไทยและพรรคที่พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุนได้ จึงเลือกใช้วิธีที่ตนเองถนัดคือการใส่ร้ายป้ายสีกันทางการเมือง ซึ่งวิธีการนี้ทำกันมานานแล้ว อยากถามว่าในอดีตมีใครไปตะโกนในโรงหนังว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง" หรือกล่าวหา "จำลองพาคนไปตาย" ทำเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์