ส.ส.นราธิวาส ซัดรัฐแก้ปัญหาก๊าซอัดคาร์บอนฯ18% เอาเปรียบชาวบ้านไม่ได้ นายกฯโต้ทำได้แต่ราคาเพิ่ม3บาท รับ ปตท.ตั้งราคาเอาเปรียบ ให้3กระทรวงดูแล
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ประชุมรัฐสภา เริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี โดย น.พ.แวมาฮาดี แวดาโอ๊ะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้อภิปรายเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน โดยระบุว่า รัฐบาลต้องป้องกันการผูกขาดและคุ้มครองผู้บริโภค ให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ในทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน แต่เหตุใดคนไทยจึงต้องซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติราคาสูง ทั้งที่ประเทศสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก และข้อมูลจากอีไอเอยังระบุว่า ผลิตก๊าซธรรมชาติได้มากกว่าหลาย ๆ ประเทศในกลุ่มประเทศโอเปค ชี้ให้เห็นว่านายกฯในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ปล่อยปละละเลย นอกจากนี้ ยังมีการโกงประชาชนโดยการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปผสมในการก๊าซธรรมชาติถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียต่อมลภาวะ
ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวต่อไปว่า เรื่องโครงสร้างราคาน้ำมันของไทยที่ขายให้คนไทยแพงกว่าคนต่างชาติ
เพราะการขายให้คนไทยได้บวกค่าขนส่งและการปรับปรุงคุณภาพเข้าไป ขณะที่ ขายให้ต่างชาติกลับลดค่าขนส่งและค่าปรับปรุงคุณภาพ ทำให้คนไทยต้องซื้อน้ำมันแพงกว่าคนต่างชาติ ดังนั้น ใครที่มีโอกาสปกครองขอให้ดูแลเรื่องน้ำ ทุ่งหญ้า ไฟ หรือพลังงาน อย่าให้ตกไปอยู่กับมือเอกชน เพราะนั่นจะเป็นสัญญาณในการล่มสลาย จึงขอตั้งฉายารัฐบาลว่าเป็น "รัฐบาลแมว" ที่ปล่อยให้คนอื่นไปกินปลาย่าง
ต่อมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ปัญหาโครงสร้างราคาน้ำมันไม่ได้เกิดจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน
แต่เป็นรัฐบาลชุดที่แล้ว ๆ มา ส่วนปัญหาการผสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปในก๊าซธรรมชาตินั้น ถ้าไม่ให้ผสมลงไปก็สามารถทำได้ แต่ประชาชนจะต้องจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติแพงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 3 บาท ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยในเรื่องน้ำมัน และกำลังพยายามจะให้มีโรงงานแยกแก๊สมากขึ้นอีก 7-8 แห่ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ปตท.ที่มีการเอารัดเอาเปรียบนั้น เราพยายามจะให้มีการขายแก๊สหุงต้มในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดโลกและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
รวมถึงพยายามปรับปรุงการใช้เอ็นจีวี พร้อมยืนยันการขนส่งว่า ควรจ่ายเท่าครัวเรือน ขณะที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีสามารถเข้าไปควบคุมได้ โดยมอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน รับผิดชอบ รวมถึงดูแลแก๊สหุงต้ม เหมือนกับการใช้ไฟรายใหญ่ก็จะต้องรับผิดชอบมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่ใช้ไฟต่ำกว่า 90 หน่วยได้ใช้ฟรีตลอดไป และพร้อมจะใช้ไปหาเสียงต่อไป
"วันนี้หากพูดตรงไป ตรงมาผมก็ยอมรับว่า ปตท.มีสถานะที่แปลก หากไปแตะมากก็อ้างว่าเข้าตลาดหุ้น แต่ก็ยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ โดยรัฐบาลเห็นว่า คนไทยควรซื้อในราคาที่เป็นธรรมอย่างทั่วถึง อย่างเรื่องน้ำ กรณีปากมูลก็ไม่ได้ตัดสินอยู่กับฝ่ายไหน แค่คำนึงประชาชนจะได้ประโยชน์จึงขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ใช่แมว แต่เป็นรัฐบาลชุดก่อน และเป็นรัฐบาลชุดนี้ที่ไล่แมวไปหมดแล้ว" นายกรัฐมนตรี กล่าว