สภาประท้วงวุ่น “สุเทพ”แจงพาดพิง “พ.ต.ท.ทักษิณ”

ศึกซักฟอกสภาเริ่มเข้มข้น เมื่อ “ร.ต.ท.เชาวริน”

อภิปรายถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดง กรณีเผารถเมล์ “สุเทพ” แจงการชุมนุมของคนเสื้อแดงต้องการพา “พ.ต.ท.ทักษิณ”กลับประเทศ ทำให้เกิดการประท้วงเป็นระยะจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เริ่มเข้มข้นในช่วงเย็น
 
ระหว่างที่อภิปราย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำเอกสารหลักฐานหลายอย่างประกอบการอภิปราย โดยเฉพาะตาชั่งน้ำหนัก พร้อมระบุว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง นับล้านบาท และรู้กันในวงกว้างว่า ใช้หลักการซื้อขายเป็นกิโล โดยนำเงินขึ้นมาชั่งบนตาชั่งในห้องประชุมว่า เงิน 1 ล้านบาท มีค่าเท่ากับ 1 กิโลกรัม และในการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องใช้เงินไม่น้อยกว่า 15 กิโลกรัม หรือ 15 ล้านบาท

การอภิปรายดังกล่าวทำให้นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจง

ว่าไม่มีการดำเนินการดังกล่าวในกระทรวงมหาดไทย พร้อมท้าเอาตำแหน่งเป็นเดิมพัน หากมีปัญหาเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทยจริง ทำให้ ร.ต.ท.เชาวริน ท้ากลับว่า ขอให้นายบุญจง ถ้าไม่กระทำเรื่องดังกล่าว หรือปฏิเสธไม่รู้เห็นเรื่องการซื้อตำแหน่งให้ไปสาบานที่วัดพระแก้ว

นอกจากนี้ สถานการณ์ในห้องประชุมยังคงเข้มข้น เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิ์ชี้แจง

กรณีที่ ร.ต.ท.เชาวรินทร์ อภิปรายถึงการเผารถเมล์ ของ ขสมก. หลายคัน ที่ยังไม่สามารถจับกุมคนผิดมาดำเนินคดีได้ ว่า เหตุการณ์รุนแรงเมื่อเดือนเมษายนปี 2552 ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้สร้างสถานการณ์ แต่เป็นการวางแผนของผู้ชุมนุม ที่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพื่อต้องการให้เกิดปะทะ จลาจล จะได้อ้างเหมือนเหตุการณ์พฤษภาคม ปี 2535 เพื่อให้คนลงมายุติเรื่อง และให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศ กระทั่งไม่สำเร็จ จึงออกมาประท้วงกันอีกครั้งในปี 2553 การที่กลุ่มคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ และลามไปจนถึงการเผารถเมล์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายสุเทพพูดมาถึงช่วงนี้ ส่งผลให้เกิดการประท้วงไปมาจากฝ่ายค้านที่ไม่ต้องการให้นายสุเทพชี้แจงต่อ หรือพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เกิดความวุ่นวายเพราะองครักษ์พิทักษ์ฝ่ายค้านและรัฐบาล เริ่มทำหน้าที่ขอใช้สิทธิ์ ประท้วง จนทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องกำชับให้สมาชิกอยู่ในความสงบเรียบร้อย

ซึ่ง ร.ต.ท.เชาวรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอร่วมรับฟัง หากนายสุเทพยังจะพาดพิงบุคคลอื่น ที่ไม่มีสิทธิชี้แจงในห้องประชุม โดยเฉพาะพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ จากนั้น ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ได้เดินออกจากห้องประชุมไปในที่สุด

จากนั้น นายสุเทพ ยังชี้แจงเรื่องการชุมนุมต่อ แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังประท้วงอย่างต่อเนื่อง โดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยที่ นายสุเทพ กล่าวหา กลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นต้นเหตุความรุนแรง รวมทั้งเห็นว่า ผลสรุปรายงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 2 นั้น รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผย ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ประสงค์ให้นำเรื่องนี้ มารายงานต่อที่ประชุมสภาฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า หากฝ่ายค้านต้องการผลสรุปรายงานฉบับดังกล่าว ก็สามารถขอที่ประธานสภาฯ ได้โดยตรง เพราะตนไม่เกี่ยวข้อง และไม่ได้กำหนดแนวทางที่มีไว้ในรายงานสรุป

อย่างไรก็ตาม ยังมีการประท้วงระหว่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ อย่างประปราย

แต่ท้ายที่สุด นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เข้ามาทำหน้าที่ ประธานการประชุม เห็นว่า ควรที่จะยุติการประท้วง และอภิปรายเรื่องนี้ เพราะเสียเวลาการอภิปรายมานานแล้ว จากนั้นที่ประชุมสภาฯ จึงเดินหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายโสภณ ต่อ.-สำนักข่าวไทย

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์