ไทยพาณิชย์ชี้ เหตุตึงเครีดเกาหลีเหนือ-ใต้ไม่กระทบศก.ไทย แต่เขย่าตลาดเงิน


เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนส่งผลให้มีทหารเสียชีวิต 2 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 คน


การวิเคราะห์ความขัดแย้งไม่น่าจะลุกลามกลายเป็นสงครามเช่นในอดีต แต่คาดว่ายังมีปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยการโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เคยมีเหตุการณ์โจมตีเช่นนี้แล้ว โดยหากดูจากครั้งล่าสุดเมื่อมีนาคม 2010 ที่เรือรบโชนันของเกาหลีใต้ถูกยิง ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการปะทะกันที่ยืดเยื้อ แต่ความขัดแย้งยังคงมีต่อเนื่องต่อไป

 ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก เนื่องจากการส่งออกของไทยไปยังเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้คิดเป็นสัดส่วนรวมกันเพียงแค่ 2% ของการส่งออกของไทย ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีมีสัดส่วนราว 6% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางมาไทย

แต่ทำให้ตลาดเงินผันผวน โดย CDS spread ของพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีในวันที่เกิดเหตุการณ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21 bps หรือ 24% จากวันก่อนหน้าซึ่งมากกว่าการปรับตัวจากเหตุการณ์เรือรบโชนันถูกยิงที่เพิ่มขึ้นเพียง 8% และปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับเมื่อเดือนพฤษภาคม 2010 ที่เพิ่มขึ้น 23% จากความกังวลถึงการลุกลามของปัญหาหนี้สินของกรีซ สำหรับผลต่อค่าเงินวอน อ่อนค่าลง 1% ในวันที่เกิดเหตุการณ์ และอ่อนค่าลงอีก 0.4% ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะที่ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 30.06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 การลงทุนในตราสารหนี้เกาหลีของไทยคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งกองทุนของไทยส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารกลาง และพันธบัตรของสถาบันการเงินของภาครัฐต่างๆ ซึ่งมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ อีกทั้งยังได้มีการประกันความเสี่ยงค่าเงินไว้กับธนาคารชั้นนำใหญ่ๆ ในต่างประเทศ
Implication  ผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจไทยมีไม่มากนัก แต่ต้องจับตามองภาวะตลาดเงินที่ยังคงผันผวน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์