ม็อบปะทะทหาร ลุมพินีเดือด ชาวบ้านหนีตาย

ม็อบเปิดฉากปะทะทหาร จุดไฟเผายางรถยนต์ อำพรางไม่ให้ฝ่ายทหารเห็น รวมทั้งใช้ระเบิดเอ็ม 79 และอาวุธปืนยิงตอบโต้กันอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ชาวบ้านย่านสวนลุมพินีปิดบ้านหนีตาย...

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.สำหรับบรรยากาศที่สวนลุมไนท์บาซาร์ปรากฎว่า มีหน่วยทหารเข้าไปตั้งกองบัญชาการอยู่ภายใน ขณะที่บริเวณบ้านเรือนชาวบ้านริมถนนวิทยุ ตรงข้ามสวนลุมพินี ต่างปิดบ้านเงียบเพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย ส่วนบริเวณ สน.ลุมพินี มีการตรวจสอบความเสียหายหลังจากที่เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ถูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่ม โดยมีรถเก๋งจำนวน 2 คัน ถูกแรงอัดของระเบิดจนกระจกแตก ส่วนที่แฟลต 5 ชั้น 3 ซึ่งเป็นที่พักของครอบครัวตำรวจถูกแรงระเบิดกระจกแตกละเอียด นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ชุมชนซอยตลาดพระเจน หลังสน.ลุมพินี มีบ้านของประชาชนได้รับความเสียหายจากระเบิดเอ็ม 79 หลายหลัง ขณะที่ชาวชุมชนสวนใหญ่ ที่เป็นเด็ก ผู้หญิงและคนชรา ได้อพยพหนีตายออกจากพื้นที่ไปแล้ว ซึ่งตลาดของชุมชนที่เคยคึกคักปรากฎว่า ร้านต่างๆ ปิดเงียบกันเกือบหมดจนกลายเป็นชุมชนร้างเลยทีเดียว

ส่วนที่บริเวณหน้าสนามมวยลุมพินี ยังคงมีการปะทะกันระหว่างทหารที่ตั้งแนวรักษาพื้นที่บริเวณถนนพระราม 4 กับผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ตั้งแนวอยู่แยกบ่อนไก่อย่างต่อเนื่อง

โดยมีการจุดไฟเผายางรถยนต์ เพื่ออำพรางไม่ให้ฝ่ายทหารเห็นรวมทั้งใช้ระเบิดเอ็ม 79 และอาวุธปืนยิงตอบโต้กันอยู่ตลอดเวลา โดยที่ซอยงามดูพลี ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงนำถังดับเพลิง ยางรถยนต์ ระเบิดเพลิง จำนวนหนึ่งมาเตรียมความพร้อมเพื่อรอรับมือการบุกเข้าสลายของฝ่ายทหาร นอกจากนี้หน่วยกู้ชีพจากหน่วยต่างๆ นำรถพยาบาลหลายสิบคันเข้าไปประจำจุดต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ด้าน พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การกดดันของฝ่ายทหารต่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า

ได้เตรียมความพร้อมในด้านของทีมแพทย์ พยาบาล คลังเลือด รวมทั้งประสานทีมศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ หากมีกรณีฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะเป็นการส่งคนไข้ไปรับการผ่าตัดในโรงพยาบาลในสังกัด หรือให้ศัลยแพทย์เข้ามาทำการรักษา ซึ่งจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง และว่านับตั้งแต่เกิดการปะทะระหว่างทหารกับผู้ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 14-16 พ.ค. มีผู้ป่วยถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ทั้งสิ้น 44 ราย เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล 5 ราย โดย 4 ราย มีแผลที่ศีรษะ และ 1 ราย มีแผลที่บริเวณหน้าอกขวา ส่วนอีก 2 ราย เสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน 1 ราย และห้องผ่าตัด 1 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยยังคงรักษาตัวอยู่ 12 ราย.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์