สรุปความเคลื่อนไหวเสื้อแดง-รัฐบาล วันที่ 22 มี.ค.

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 22 มี.ค. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

ออกแถลงการณ์ 5 ข้อ โดยยืนยันข้อเรียกร้องในกรอบยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ และจะเจรจากับนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว พร้อมระบุว่า หากมีการยุบสภาแล้วให้ทุกฝ่ายสลายตัวและทุกฝ่ายจะทำสัญญาประชาคมร่วมกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองหาเสียงได้ทุกพื้นที่โดยไม่มีการกีดกัน และให้การเลือกตั้งโดยสุจริตเป็นเครื่องตัดสิน ไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรให้ทุกฝ่ายจะต้องยอมรับเพราะเป็นการตัดสินใจของประชาชน

* เสื้อแดงไม่ตามไปกระทรวงสธ.

 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะไม่นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปปิดล้อมที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมครม. เนื่องจากทราบว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงเทียมจ้องป่วนสถานการณ์ เพื่อให้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในการหาความชอบธรรมในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม

* นัด 1 ทุ่มหัวเราะใส่รูปอภิสิทธิ์

 ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ในวันที่ 23 มี.ค. เวลา 19.00 น. จะมีการใช้อาวุธลับเพื่อให้รู้ว่าคนไทยมีความรู้สึกอย่างไรกับนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยจะนำรูปถ่ายของนายอภิสิทธิ์ที่ดูดีที่สุดขึ้นเวที และเชิญชวนให้ผู้ชุมนุมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้า ผู้ที่ชมอยู่ทางพีเพิล แชนแนล วิทยุหรือทางอินเตอร์เน็ต ร่วมกันหัวเราะเยาะนายกฯอภิสิทธิ์ เป็นมาตรการเล็กๆ เพื่อผ่อนคลายให้ผู้ชุมนุม ส่วนมาตรการต่อไปจะมีการประกาศในวันต่อไป

* ตั้งขบวนตรวจเต็นท์ทหาร

 สำหรับความเคลื่อนไหวช่วงเช้า เวลา 09.00 น. น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มนปช. ได้ขึ้นเวทีโดยประกาศรับอาสาสมัครสุภาพสตรีจากผู้ชุมนุม จำนวน 1,000 คน เพื่อตั้งเป็นหน่วยสันติวีธี ในการเดินทางไปตรวจสอบตามเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งอยู่บริเวณรอบการชุมนุม เพื่อตรวจสอบว่ามีเฉพาะกระบองและโล่ตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่

จากนั้น เวลา 11.00 น. ขบวนตั้งต้นเดินตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าถนนนครสวรรค์ ผ่านแยกจักรพรรดิพงษ์ เลี้ยวซ้ายเข้าแยกเทวกรรม เข้าวัดโสมนัสวรมหาวิหาร เดินกลับถนนนครสวรรค์ ไปยังหน่วยทหารที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทสไทย หลังจากนั้นเดินทางตามเส้นถนนพิษณุโลก ผ่านทำเนียบรัฐบาล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินนอก กลับเข้าสู่เวทีใหญ่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยใช้เวลาเดินขบวนทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ

* ทหารยันไม่ให้ตรวจ แต่ให้สัญญา

 ระหว่างการเดินทางไปถึงหน่วยทหารในวัดโสมนัสราชวรวิหาร มี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ บก.น.1 และ พ.ท.วรุตม์ ประเทืองทิน ผู้บังกองพัน ร.11 พัน 1 รอ. มาต้อนรับ โดย พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า หน่วยนี้เป็นหน่วยอยู่ร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารรักษาการอยู่ ยืนยันว่าไม่มีอาวุธซุกซ่อนแต่ประใดมีเพียงโล่กำบังและกระบองเท่านั้น พ.ท.วรุตม์ กล่าวว่า ยืนยันได้ว่ามีเท่าที่เห็น และยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดว่าทหารปฏิบัติตามหน้าที่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ ขอให้มั่นได้ว่าไม่มีอาวุธซุกซ่อนอยู่ประการ ในที่สุดได้เชิญแกนนำทั้ง 5 จับมือกับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับมือเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายประชาชน

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 กล่าวยืนยันว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถตรวจค้นอาวุธของทหารได้เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตรวจสอบด้วยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนจะประจำการอยู่ที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยบริเวณรอบการชุมนุมเพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม

* เสื้อแดงอีสานโห่ไล่นายกฯ

 วันเดียวกันที่สนามบินในกองพลบิน 23 อุดรธานี เมื่อเวลา 10.00 น. นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ระดมคนเสื้อแดงจากอุดรธานีจำนวนกว่า 200 คน ไปรวมกับคนเสื้อแดงที่จ.หนองคาย หลังมีข่าวว่าคณะของนายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ไปตรวจปัญหาภัยแล้งและวิกฤตในลุ่มแม่น้ำโขง ที่ เขตพื้นที่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย แม้ว่า ภารกิจไม่เป็นที่เปิดเผย แต่เมื่อไปถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ที่โรงเรียนสังคมวิทยา มีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยมารวมตัวกันขับไล่คณะนายกฯ

เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้ว นายอภิสิทธิ์ รีบเดินทางต่อด้วยขบวนรถยนต์ พร้อมแม่ทัพภาคที่ 2 ไปบริเวณท่าน้ำบ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนสังคมวิทยา 2 กิโลเมตร แต่ระหว่างทางกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาด้วยรถจักรยานยนต์และรถกระบะได้ส่งเสียงโห่ โบกธงสีแดงใส่ขบวนนายกฯตลอดเส้นทาง

 จนเมื่อนายกฯ ถึงบริเวณท่าน้ำ มีชาวบ้านประมาณ 100 คนที่มารอต้อนรับ เข้ามาผูกผ้าขาวม้าให้ ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยของตำรวจในพื้นที่ และตชด. แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังตามมาตะโกนขับไล่คณะนายกฯอีก ทำให้นายอภิสิทธิ์ ยกเลิกการขึ้นกล่าวปราศรัยกับประชาชน และใช้เวลาอยู่บริเวณดังกล่าวไม่ถึง 10 นาที ก่อนเดินทางกลับออกมายังโรงเรียนสังคมวิทยา ปรากฏว่า กลุ่มคนเสื้อแดงอีกกลุ่มได้เข้ามาปิดล้อมประตูเข้า-ออกโรงเรียนมากขึ้น จนตำรวจต้องนำรถขังผู้ต้องหามาผลักดันคนเสื้อแดง และสกัดไม่ให้เข้าประชิดประตูโรงเรียน กระทั่งนายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป กลุ่มคนเสื้อแดงถึงยอมสลายตัว โดยนายกฯ มายังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ในเวลา 14.30 น.

* เทือกตรวจความปลอดภัยสธ.

  เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสุเทพ เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง แถลงภายหลังประชุมร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ว่า คณะกรรมการเห็นร่วมกันว่า กระทรวงสาธารณสุข มีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่ประชุมครม.

 “กระทรวงสาธารณสุขถือเป็นสถานที่ราชการ ดังนั้นบริเวณเขตรั้วทั้งหมดจะถือเป็นสถานที่ห้ามเข้า ตามมาตรา 67  พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งห้ามผู้ชุมนุมเข้าเขตสถานที่ราชการ และรบกวนการปฏิบัติงานของข้าราชการ โดยเตรียมกำลังพลไว้เหมาะสมกับการดูแลสถานที่ ไม่อยากให้นำจำนวนมาวัดว่าจะต้องเกิดสถานการณ์อะไร อยากให้เอาหัวใจมาวัดว่าจะสามารถดูแลบ้านเมืองได้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมอยากมาแสดงเจตนารมย์ ก็มาเพียง 100-200 คนก็พอ”

* ครม.ถกขยายพ.ร.บ.ความมั่นคง

 นายสุเทพกล่าวว่า วาระแรกของการประชุมครม.คือ เพื่อขอมติขยายเวลาการใช้พ.ร.บ.มั่นคงในราชอาณาจักร อีก 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 23-30 มี.ค. เนื่องจากผู้ ชุมนุมประกาศว่าจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24-25 มี.ค. เพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชนและเพื่อสะดวกแก่การดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม สำหรับการลดพื้นที่ควบคุมตามพ.ร.บ.มั่นคงฯนั้นจะเหลือพื้นที่เฉพาะในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ในส่วนของนนทบุรีเนื่องจากมีสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง ส่วนสมุทรปราการ เพื่อดูแลความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิ สถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและบริวารที่ต้องการหาเหตุมาปลุกระดมโดยเฉพาะเรื่องการแบ่งแยกชนชั้น ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นในอดีตสมัยคอมมิวนิสต์แล้ว

* ร.พ.ศรีธัญญาเปิดตามปกติ

 เมื่อวันที่ 22 มี.ค. น.พ.ศักดา กาญจนาวิโรจน์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา กล่าวว่า ได้มีการประชุมวางแผนเพื่อหามาตรการรองรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อาจใช้เส้นทางโรงพยาบาลศรีธัญญาเดินทางมาชุมนุมที่กระทรวงสาธารณสุข เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่เข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่หรือผู้ป่วยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการส่งเสียงดังบีบแตรหรือปราศรัยในการชุมนุม ซึ่งได้มีการเตรียมจัดกิจกรรมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจแต่จะไม่มีการย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแต่จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ ตั้งแต่ 08.00-16.30 น.

* มาร์คฟ้องแม้วหมิ่น คลิปเสียง

 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 14 -17 มีนาคม 2553 เวลากลางคืนระหว่าง 20.00-22.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ถ่ายทอดสดภาพและเสียงจากต่างประเทศ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต วีดีโอลิงค์ บนเวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ข้อความปราศรัยของจำเลยดังกล่าว มีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ช่องพีเพิลแชนแนล วิทยุและโทรทัศน์ช่องอื่นทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนที่ฟังและชมการถ่ายทอดทั่วประเทศเข้าใจว่าโจทก์ เป็น คนที่มีใจอำมหิต โหดเหี้ยม

 คำปราศรัยของจำเลยล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น โดยคลิปเสียงของโจทก์ที่มีข้อความว่าโจทก์สั่งการให้ทหาร ตำรวจปราบปรามประชาชนในเดือนเมษายน 2552 ปรากฏชัดแล้วว่า เป็นการตัดต่อเสียงของโจทก์ แต่เผยแพร่เพื่อมุ่งหวังในการปลุกระดมและให้ประชาชนที่ไม่ทราบความจริงเกิดความเกลียดชังและอาฆาตต่อโจทก์

 โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายและให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาของศาลทั้งฉบับในหนังสือพิมพ์รายวัน 9 ฉบับ ติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน ในหน้าข่าวปกติและขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ด้วย