กห.เน้นสาง 3 ปัญหาหลัก มท.1ปัดข่าวมวลชนต้านปฏิรูป

"ภารกิจด่วนไม่ให้ทหารออกนอกแถว"


พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างเดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงกลาโหม วันแรก โดยมี พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ วันนี้ (11 ต.ค.) ว่า ภารกิจเร่งด่วนที่จะดำเนินการภายหลังรับตำแหน่งมี 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2.การสร้างความสมานฉันท์ภายในชาติ

โดยเฉพาะในกองทัพที่มีความแตกแยก ถือเป็นภารกิจด่วนที่ไม่ให้ทหารออกนอกแถว ที่ผ่านมา มีการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว และมีทหารวิ่งเข้าไปหาการเมือง และ 3.ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ทุกคนฝากความหวังไว้กับรัฐบาล และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ดูแลโดยตรง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องประสานอย่างใกล้ชิด มั่นใจว่านายกรัฐมนตรี ประธาน คมช.จะร่วมกันแก้ปัญหาภาคใต้ได้

"ต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อน"


เรื่องความสมานฉันท์ในกองทัพ ต้องปรับความเข้าใจ ชี้แจงไม่ให้เกิดเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันเอง ต้องยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดจากทางฝ่ายการเมืองวิ่งมา จากทหารนอกแถววิ่งไปหานักการเมือง ต้องทำความเข้าใจกันก่อน จะได้สบายใจ ผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีความเป็นธรรมสิ่งที่คิดไว้คือ จะโน้มน้าวจิตใจผู้ผิดหวังและเสียใจจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาให้กลับมาร่วมมือในการทำงานต่อไป ยอมรับว่า ที่ผ่านมา มีทั้งคนดีและคนที่หลงผิดไปบ้าง ส่วนเรื่องปัญหาภาคใต้ ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามนโยบายของประธาน คมช. กับ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจะร่วมกันแก้ปัญหาไฟใต้ได้" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อกรณีกระทรวงหมาดไทย อาจจะฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่า เป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างคิดตรงกันว่าปัญหาภาคใต้ที่ปะทุขึ้นมาในขณะนี้เกิดจากอะไร ก็ต้องย้อนกลับไปสู่จุดที่ก่อนเกิดปัญหาว่ามีการเปลี่ยนแปลงองค์กรอะไรทางภาคใต้บ้าง ตนไม่ขัดข้องที่จะฟื้น ศอ.บต. และเห็นด้วย เพราะการแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องใช้เวลา ใช้กำลังอย่างเดียวใช้ไม่ได้ ถือว่าล้าสมัย คิดว่าขณะนี้การแก้ไขปัญหาภาคใต้มีเอกภาพแล้ว

"เสนอเรื่องการดูแลปัญหาไฟใต้"


ด้าน นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าววันเดียวกันว่า ในเร็วๆนี้ กระทรวงมหาดไทย จะมีการเสนอเรื่องการดูแลปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้นอีก 2 จังหวัด คือ จ.สตูล และสงขลา เพื่อเป็นการดำเนินการป้องกันปัญหาที่อาจจะมีการลุกลามไปในวงกว้าง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อถึง การรื้อฟื้นบทบาทของ ศอ.บต.ว่า พลเรือนในพื้นที่ยังคงมีความสำคัญที่จะเข้าไปมีบทบาทในการดำเนินการ โครงสร้างเดิมถือเป็นโครงสร้างที่ดีอยู่แล้ว อาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างบางส่วน คงจะต้องมีการหารือกันก่อนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

"ปฏิเสธตอบประเด็นเจรจาแกนนำ"


นายอารีย์ปฏิเสธที่จะกล่าวตอบข้อถามถึงประเด็นการเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เข้ามาเป็นตัวกลาง ที่อาจเป็นการยกระดับของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและอาจกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ โดยกล่าวเพียงว่า ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง และสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน นำไปสู่ความสมานฉันท์ให้กับพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ควรทำ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีหลายฝ่ายเสนอให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่า ยังไม่มีการรายงานจากฝ่ายปกครองกรณีกลุ่มมวลชนเตรียมเคลื่อนไหว เนื่องจากไม่พอใจการปฏิรูปการปกครอง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์