ยังไม่ปลดล็อกกันง่ายๆ

ถึงจะแก่แต่ก็คึกคักได้กับบรรยากาศการประชุมนัดแรกของ คณะรัฐมนตรีที่อายุรวมกันกว่า 1,600 ปี


เน้นประเพณีไทยก่อนจะเริ่มงานก็ต้องสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทาง

เพื่อความปลอดโปร่ง ไร้อุปสรรค หนทางโล่งสบาย

รัฐมนตรีหลายรายใช้พระนำหน้า ทั้งคิวของ หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้อุ้มพระพุทธรูปปางนาคปรกขึ้นห้องทำงาน ขณะที่คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้อัญเชิญพระพุทธรูปบูชาที่บ้านมาไว้ที่ห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาลด้วย

อย่างน้อยก็ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ


และที่แปลกกว่ารัฐบาลอื่นทั่วไป ให้ความสำคัญมาก่อนนโยบายอื่นใด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ใช้โอกาสภายหลังการประชุม ครม.นัดแรก แถลงแนวทางกว้างๆในการทำงานของรัฐบาล

เน้นที่ความโปร่งใส ความเป็นธรรม มีประสิทธิภาพ และเรื่องความประหยัด

และเพื่อป้องกันเสียงครหา หมกเม็ด พล.อ.สุรยุทธ์แสดงเจตจำนงเป็นคนแถลงข่าว ผลการประชุม ครม.ด้วยตัวเอง

ตั้งใจจะทำให้เรื่องของการหารือในที่ประชุม ครม.เป็นที่รับทราบของประชาชน

แต่ยังคงสไตล์พูดน้อยต่อยหนัก ไม่พูดกันพร่ำเพรื่อ


พอจบประเด็นที่เตรียมไว้ นายกฯสุรยุทธ์ก็กลับหลังหันเดินขึ้นห้องทำงานทันที ไม่ยอมแม้แต่หันมามองนักข่าวที่แย่งกันตะโกนถามเสียงหลง

นุ่มนวลแต่เด็ดขาด


และด้วยสไตล์นี้แหละที่ต้องลุ้นกันต่อไป กับประเด็นการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ที่หลายฝ่ายเรียกร้องหลังมีคณะรัฐมนตรีแล้ว

พล.อ.สุรยุทธ์บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆแค่ว่า เรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึกที่อาจจะอยู่ในความสนใจของหลายๆส่วนนั้น ได้มีการหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเป็นมติ ครม. ว่าเราจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยใช้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นที่หารือ

ขอเรียนว่า เราได้คำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของพี่น้องประชาชน และไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ คิดว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อให้สถานการณ์ได้คลี่คลายลงไป และจะได้พิจารณาเรื่องของการยกเลิกกฎอัยการศึก ให้เร็วที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้

ฟังดูนุ่มนวลดี ทั้งๆที่รู้เลยว่า ยังไม่มีคิวยกเลิกกันง่ายๆ

เพราะในขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ยืนยันว่า มติ ครม.ให้ไปหารือกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ วันเดียวกัน บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธาน คมช.

ส่งเสียงเข้มๆ


หากประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ อะไรขึ้นมาจะแก้ยาก ดังนั้น คิดว่าคงไม่ช้าเกินไป เพราะเมื่อเราประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกแสดงว่า ทุกอย่างต้องปลอดภัยเรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนทุกคนไม่เกิดปัญหากัน

หาวเรอกันต่อไป สำหรับใครที่หวังจะให้กฎเหล็กผ่อนคลาย

จะได้ขยับเขยื้อน เคลื่อนไหวได้บ้าง


โดยเฉพาะพลพรรคไทยรักไทยที่วันนี้ยังเคว้งคว้างหาตัวหัวหน้าพรรคเสียบแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้

โยนให้คนนั้นก็ชิ่ง คนนี้ก็บอกปัด

จะเร่งให้เกิดความชัดเจนก็ติดเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ในขณะที่คดียุบพรรคก็เตรียมตั้งแท่นตัดสินกันแล้ว


ขณะที่ฝ่ายประชาธิปัตย์ก็ไม่ใช่จะแฮปปี้ อยู่ในสภาพแบบนี้นานๆน้ำลายจะบูด ด่าใครก็ไม่ถนัด ไม่อย่างนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค คงไม่ออกมาดักทาง ทำทีเป็นคาดการณ์ล่วงหน้า หลังตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วคงจะได้คิวยกเลิกกฎอัยการศึก

ในฝ่ายนักการเมืองดูเหมือนจะมีแค่ บิ๊กเติ้ง นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เพียงคนเดียว ที่ออกมาหนุนให้ คงกฎอัยการศึกต่อไป

ถ้าไม่คลี่คลายก็อยู่ที่ดุลพินิจเพราะเรื่องคลื่นใต้น้ำมีแน่นอน และรัฐบาลชุดนี้ต้องมีคลื่นใต้น้ำจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายพวกเดียว กันเองบ้าง ฝ่ายคนละพวกบ้าง ซึ่งต้องใช้ความอดทน รออีกสักระยะก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องประเมิน

ยุให้ล็อกกฎเหล็กเอาไว้

พรรคอื่นขยับไม่ออก บิ๊กเติ้ง ก็รอช้อนอย่างเดียว.






แหล่งที่มา:

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์