พ่อใหญ่จิ๋ว หายไปไหน หลังปฏิวัติ!

ท่ามกลางภาวะที่กำลังทหารกลับมากุมอำนาจในประเทศ ดูเหมือนว่าชื่อของ "อดีตขงเบ้งแห่งกองทัพไทย" อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กลับไม่ถูกเอ่ยถึงในขณะนี้


แม้ว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) มีกระแสข่าวมาว่า พล.อ.ชวลิตได้ยกเลิกการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างกะทันหัน ทั้งที่มีกำหนดการเดินทางในวันที่ 15 กันยายน

และภายหลังจากการยึดอำนาจเสร็จสิ้นของ คปค. ในคืนวันที่ 19 กันยายน กระทั่งขณะนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พล.อ.ชวลิต ยังอยู่ในประเทศหรือไม่

มีเพียงกระแสว่า เย็นของวันที่ 19 กันยายน เห็น พล.อ.ชวลิต เดินออกจากบ้านสี่เสาเทเวศร์

จากการสอบถามอดีตลูกพรรคความหวังใหม่ คนสนิทของ พล.อ.ชวลิต อย่าง "อรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ" อดีต ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย ได้รับการยืนยันมาว่า


"ขณะนี้ พล.อ.ชวลิต ยังคงอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะทราบมาว่ายังมีบางคนเข้าพบ พล.อ.ชวลิต แต่ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าก่อนการปฏิวัติ พล.อ.ชวลิต มีกำหนดการเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ตัดสินไม่เดินทางนั้น ผมก็ทราบจากสื่อว่า พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ) ไม่ให้เดินทาง ซึ่งการที่ผู้ใหญ่ติงขึ้นมา ทำให้ พล.อ.ชวลิต จึงตัดสินใจงดการเดินทาง"

อย่างไรก็ตาม "อรรถสิทธิ์" มองว่า


การตัดสินใจไม่เดินทางออกนอกประเทศก่อนเหตุการณ์ปฏิวัติของ พล.อ.ชวลิต ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณถึงการรับรู้ว่าจะเกิดเหตุปฏิวัติล่วงหน้าหรือไม่

"ผมไม่เห็นว่าการตัดสินใจไม่เดินทางก่อนการปฏิวัติจะเป็นสัญญาณว่า พล.อ.ชวลิต เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรในการปฏิวัติครั้งนี้ แต่ท่านคงฟังผู้ใหญ่เลยตัดสินใจไม่ไปมากกว่า"

และอีกหนึ่งผู้ใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต อย่าง "ไพจิต ศรีวรขาน" อดีต ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย ยืนยันเช่นกันว่า


ขณะนี้ พล.อ.ชวลิต ยังพักอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ยังไม่ได้เข้าไปพบ เพราะต้องรอให้สถานการณ์เบาลงก่อน

สำหรับกระแสข่าวก่อนการปฏิวัติที่ พล.อ.ชวลิตตัดสินใจไม่เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน "ไพจิต" ให้เหตุผลว่า "ไม่ทราบว่า พล.อ.ชวลิต ถูกห้ามได้อย่างไร แต่อาจเป็นเรื่องของการวินิจฉัยส่วนตัวว่าจะไม่เดินทาง และไม่ทราบว่า พล.อ.ชวลิต ทราบเรื่องการปฏิวัติก่อนล่วงหน้าหรือไม่"

อย่างไรก็ตาม ผมก็พอจะเดาได้ว่าอาจเกิดเหตุปฏิวัติขึ้น


"โดยประเมินว่าอาจเกิดการชุมนุมและเกิดเหตุปะทะกัน จนเข้าสู่การยึดอำนาจเกิดขึ้น เพราะสังเกตจากการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่ พบว่า 2 เดือนก่อนการเลือกตั้ง กลับไม่มีการให้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเหมือนกันทุกพรรค รวมถึงการขึ้นป้ายหาเสียงที่ครั้งนี้กลับเงียบผิดปกติ"

ดีตลูกพรรคความหวังใหม่ยังทิ้งท้ายด้วยว่า

"หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ผม พร้อมด้วยอดีต ส.ส.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเป็นกลุ่มความหวังใหม่เดิมจะเดินทางเข้าพบ พล.อ.ชวลิต เพื่อหารือถึงการเตรียมความพร้อมทางการเมือง เพราะอดีต ส.ส.ความหวังใหม่ยังมีความคิดทางการเมืองที่ตรงกัน โดยเฉพาะเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.ชวลิต กลับมาเป็นหัวหน้าอีกครั้ง แต่ทั้งหมดก็ต้องเคารพการตัดสินใจของท่าน"

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์