รัฐบาลอึด-เสื้อแดงตบมือข้างเดียว

หลังจากที่ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ใช้มาตรการเชิงรุกด้วยการปิดการจราจรบริเวณ 4 แยกอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้การจราจรในเมืองหลวงเป็นอัมพาตอย่างหนัก


จนทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (สสท.) ด้วยการประกาศใช้ “กฎหมาย” มาจัดการกับ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในละแวกดังกล่าว


 มาตรการ “กฎหมาย” นี้ เป็นข้อเสนอจากกองทัพ หลังจากอภิสิทธิ์ เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงในกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน. 1 รอ.) ที่ตั้งเป็น “วอร์รูม” ชั่วคราว หลังจากเสื้อแดงป่วนกรุงพร้อมกันหลายๆ จุด

 สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก และ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการควบคุมสถานการณ์ มากันครบ

 มีการประเมินสถานการณ์ ประเมินกำลัง และความ "อยาก" ของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ข้อสรุปว่า เกมเสื้อแดงเป็นเกมวัดใจรัฐบาล เดินขู่ เดินท้าทาย เพราะมั่นใจว่า รัฐบาลไม่กล้าใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม


 ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าจำนวนคนที่แห่แหนกันมานั้น ท้ายสุดจะกลายเป็นแรงกดดันให้แกนนำผู้ชุมนุม บังคับให้เลือกว่าจะเดินไปเผชิญหน้าเพื่อเผด็จศึก หรือจะสลายการชุมนุม ที่สุดแกนนำผู้ชุมนุมก็เลือกเดินไปปิดถนนปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ศูนย์กลางการคมนาคมของคนหาเช้ากินค่ำจนถึงคนชั้นกลาง

 ผบ.เหล่าทัพเสนอว่า ตรงจุดนี้เป็นเกมที่เสี่ยง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายผู้ชุมนุม เพราะคนเดือดร้อนจำนวนมาก แต่รัฐบาลน่าจะได้เปรียบที่ไม่ได้อยู่ในจุดวิกฤติตรงนั้น กลับเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องเผชิญหน้ากับชาวบ้านที่ทำมาหากินในย่านนั้นเสียเอง


 แนวทางของรัฐบาลที่ควรทำก็คือ บันทึกภาพการละเมิดกฎหมายทั้งหมด


 "อย่าใช้อารมณ์ ในการตอบโต้กลุ่มคนเสื้อแดง เพราะจะเข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่ขุด" หลุมพราง "ไว้" นั่นคือข้อเสนอของเหล่าทัพ


 การชุมนุมถ้าหากไม่ไปตอบโต้ หรือตอแยด้วย ก็เหมือนกับตบมือข้างเดียว


 เมื่อประเมินถึงขั้นนี้แล้ว พระราชบัญญัติความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคง) หรือพระราชการกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินปี 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จึงเป็นเรื่องเกินจำเป็น


 ขณะเดียวกัน ก็ประกาศให้วันศุกร์ที่ 10 เมษายน เป็นวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปเลย ซึ่งจะทำให้ลดอุณภูมิความไม่พอใจของคนทำงานในย่านที่ถูกปิดถนน และลดทอนกำลังเสื้อแดงไปในตัว

 มีการประเมินว่า “กลุ่มคนเสื้อแดง จะเหลือไม่มากนักเพราะส่วนใหญ่ต้องการกลับไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ 12-16 เมษายน แต่หลังจากนั้นจะต้องมาประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง เพราะหลังจากสงกรานต์ แนวโน้มที่กลุ่มเกษตรกรอาจจะนำขบวนรถอีแต๋นเข้ากรุง เพื่อกดดันรัฐบาล ซึ่งอาจกลายเป็นกำลังเสริมให้ฝ่ายเสื้อแดงลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง ยังคงเป็นการบ้านที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและรัฐบาลจะต้องขบคิดหาวิธีบริหารจัดการ เพื่อให้การแก้ปัญหาลุล่วงไปด้วยดี

ทีมข่าวความมั่นคง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์