ชวนถาม“เขยแม้ว”จะปกป้องชื่อเสียงของประเทศหรือไม่


“ชวน” ชี้ คำพิพากษาของ“ศาลฎีกาฯ” สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองแทรกแซงได้ยาก ถาม “เขยแม้ว” จะปกป้องประเทศ-ชื่อเสียงของประเทศหรือไม่ อสส.สั่งรองเดินหน้าขอส่ง"ทักษิณ"กลับไทย


นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาว่า สะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการที่จะเข้าไปแทรกแซงหรือมีอำนาจเหนือองค์กรอิสระและศาลทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายตุลาการ และอัยการ


“ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือศาลยุติธรรมหรือศาลปกครองในขณะนี้ เป็นองค์กรที่ประชาชนสามารถเชื่อถือได้มากกว่าทุกองค์กร คนที่เคยสามารถวิ่งเต้นได้ วันหนึ่งก็วิ่งไม่ได้หรือวิ่งยากขึ้น ก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือตัวเองเคยสามารถทำอะไรผิดทำนองคลองธรรมได้ นี่คือสิ่งต้องเปรียบเทียบความจริงให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร และต้องยอมรับว่าดุลพินิจของศาล

ท่านจะอธิบายแต่ละเรื่องแม้กระทั้งคำวินิจฉัยเมื่อวานนี้ เห็นได้ชัดว่าศาลพยายามอธิบายแต่ละเรื่องให้กระจ่างชัด เพื่อตัดข้อสงสัยที่จะเป็นข้อระแวง ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด ส่วนใครจะไปวิจารณ์เป็นอย่างอื่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนนั้น” นายชวน กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่พ.ต.ท.ทักษิณ ฯ ระบุกับสื่อต่างประเทศพาดพิงศาลว่า เป็นศาลการเมืองเชื่อมโยงกับการรัฐประหารที่ผ่านมาคิดว่ารัฐบาลต้องแก้ไขเรื่องความน่าเชื่อถือของศาลในสายตาต่างชาติได้อย่างไร ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องอธิบายให้ต่างชาติเข้าใจว่า ระบบศาลปัจจุบันไม่ได้เป็นผลพวงมาจากวันที่ 19 ก.ย. แต่เป็นองค์กรที่เกิดขึ้นจากกฎหมาย

ที่ให้มีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและก็เคยตัดสินลงโทษรัฐมนตรีมาแล้วก่อนหน้านี้ เดี๋ยวนี้องค์กรดังกล่าวยังอยู่ในสถานะที่เชื่อได้ว่าไม่ใช่ศาลการเมือง แต่ตนก็เข้าใจว่าผู้ที่อยู่ในฐานะจำเลยและได้รับโทษ ก็จะต้องมีความรู้สึกส่วนตัวแตกต่างๆไปจากคนอื่น ในฐานะที่ตกเป็นผู้รับผลจากคำตัดสิน จะให้บอกว่าคำตัดสินนี้ถูกแล้ว ชอบแล้ว คงเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าจะมองว่าศาลตัดสินโดยเป็นเครื่องมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนไม่เชื่อว่าจะมีแม้แต่นิดเดียว


ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะเดินสายชี้แจงในต่างประเทศและทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะแปลคำพิพากษาไปยังประเทศอื่นๆ คิดว่านายกฯ ควรจะชี้แจงเรื่องนี้กับต่างประเทศอย่างไรหรือไม่

นายชวน กล่าวว่า คงต้องตั้งคำถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่าคิดเรื่องนี้อย่างไร จะปกป้องประเทศและปกป้องชื่อเสียงของประเทศอย่างไร เมื่อมีข้อสงสัยหรือการกล่าวหาอย่างนี้ ดูซิว่านายกฯจะเถียงพี่เขยหรือไม่ ก็คงต้องรอดู อย่างไรก็ตามคิดว่าฝ่ายบ้านเมืองคงจะดำเนินการเพื่อขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณเองก็คงจะต่อสู้เพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง เรื่องนี้เราคงไปตอบคำถามแทนใครไม่ได้ แต่คิดว่าหน้าที่ใครคนนั้นก็ต้องไปดำเนินการต่อไป และรัฐบาลจะเกรงใจความเป็นญาติพี่น้องไม่ได้ เพราะมีหน้าที่ทำงานให้บ้านเมือง รักษาบ้านเมือง ไม่ใช่เอาเรื่องความสัมพันธ์ญาติพี่น้องมาเป็นปัญหา จะเห็นได้ว่าขณะนี้หลายเรื่องสับสนเพราะในเรื่องของเส้นแบ่งตรงนี้มักจะทำไม่ค่อยได้เลย ทำให้มีปัญหาตามมา


อสส.สั่งรองเดินหน้าขอส่ง"ทักษิณ"กลับไทย


นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณว่า นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด สั่งการให้ นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษกลับมารับโทษ ทำการประชุมคณะทำงานในวันที่ 24 ต.ค.นี้ 14.00 น.

เพื่อมอบหมายงานให้แก่เจ้าหน้าที่ ด้วยการกำหนดอัตราเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปทำงานยังประเทศอังกฤษ พร้อมกำหนดหน้าที่ในการทำงานของแต่ละคน เป็นการเตรียมความพร้อมในระหว่างการรอการแปลคำพิพากษาเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงหมายจับ ที่ใช้เป็นเอกสารประกอบการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้คณะทำงานจะต้องนำคำพิพากษามาวิเคราะห์ว่าจะใช้ข้อกฎหมายอะไรมาประกอบในการยื่นคำร้องบ้าง


"ชวน"ชี้รธน.เขียนอย่างไรถ้าผู้ปฏิบัติไม่เคารพปัญหาไม่จบ


นายชวน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะลดระยะเวลาการทำงานของส.ส.ร. 3 เหลือ 120 วัน ว่า ปัญหาจริงที่เกิดวิกฤติของประเทศไม่ใช่เพราะความผิดของรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เพราะไม่ใช่รัฐธรรมนูญ ปี 40 และปี 50 ไม่ดี ถ้าเรายอมรับความจริง ปี 40 ก็เคยใช้โดยไม่มีปัญหา แล้วในที่สุดเมื่อเปลี่ยนผู้ใช้ก็มีปัญหาว่า ปี 50 ก็มีความเข้มข้นกว่าเดิมในบางเรื่อง และรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับนี้ ก็ไม่ใช่ว่าฉบับไหนดีกว่าหรือไม่ดีกว่ากัน

เพราะจะเขียนอย่างไรถ้าผู้ปฏิบัติไม่เคารพบทบัญญัติของกฎหมาย ยังปล่อยให้มีการซื้อเสียง โกงเลือกตั้งปัญหาก็ยังมีอยู่ เพราะระบบนี้ เป็นระบบที่เข้ามาหาผลประโยชน์ แต่ความคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน เพื่อมาทบทวนว่าอะไรเป็นปัญหานั้นตนคิดว่าทำได้


ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่รัฐบาลระบุว่าแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะทำให้ปัญหาต่างๆยุติ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาวันนี้ไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี 50 เป็นต้นเหตุ แต่ถ้าจะมีสาเหตุบ้างก็คือ มาตรา 237 ที่ว่าถ้าโกงเลือกตั้งแล้ว กรรมการบริการพรรครู้เห็นเป็นใจด้วย พรรคการเมืองนั้นจะต้องถูกยุบ ตรงนี้ก็จะมีปัญหากับพรรคการเมืองที่ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งบางคนก็บอกว่าเข้มไป

แต่เมื่อกฎหมายเขียนมาก็ต้องปฏิบัติ บ้านเมืองต้องไปสู่จุดที่ต้องเคารพความชอบธรรม ความถูกต้อง ถ้าการเมืองมาจากความถูกต้อง เราสามารถอ้างได้ว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าเรามาจากการเลือกตั้ง โดยโกงมาจะอ้างอย่างไรก็ไม่เต็มปากเต็มคำ เพราะว่ายังมีคนเถียงได้อยู่ตลอดเวลา และวันนี้ที่มีปัญหาก็คือตรงนี้


ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าไม่เชื่อว่า ส.ส.ร.3 จะปฏิรูปการเมืองได้ นายชวน กล่าวว่า การปรับปรุงรัฐธรรมนูญนั้นทำได้ ถ้าเห็นว่าจุดไหนมีปัญหาแล้วปัญหาจริงคืออะไร ตนอยากถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะรัฐธรรมนูญ ปี 50 อย่างนั้นหรือ แล้วทำไมจึงต้องล้มเลิกรัฐธรรมนูญ ปี 40ไป ก็จะมีคนหยิบยกขึ้นมาอ้างว่าเป็นเพราะคณะปฏิวัติ

ความจริงแล้วรัฐธรรมนูญ ปี 40 เขียนบทบัญญัติที่ถ่วงดูลอำนาจดีพอสมควร แต่ในที่สุดผู้ปฏิบัติไม่เอา และกลับแทรกแซงองค์กรเหล่านี้ทั้งหมด ดังนั้นถ้าผู้ปฏิบัติไม่เคารพบทบัญญัติของกฎหมาย เช่นไม่ทำให้การถ่วงดูลอำนาจของแต่ละฝ่ายเป็นไปอย่างชอบธรรม มีการแทรกแซง หรือครอบงำ ปัญหาก็ไม่ได้เกิดจากตัวรัฐธรรมนูญแล้ว


“รัฐธรรนูญ ปี 50 มีจุดอ่อนอยู่เรื่องหนึ่งคือไม่ให้ความสำคัญกับนักการเมือง นั่นเป็นเพราะข้อมูลที่ผู้ร่างได้ไปนั้นน้อย ในการที่จะรู้ว่าปัญหาจริงๆเกิดจากพฤติกรรม เพราะฉะนั้นวันนี้ อย่าไปหวังพึ่งกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ต้องถือว่าทุกกระบวนการมีความสำคัญทั้งสิ้น ซึ่งฝ่ายการเมืองก็แหมือนกัน ฝ่ายที่รู้สึกว่าเป็นปฏิปักษ์กับระบบเลือกตั้ง ก็อย่าไปมองว่าการเลือกตั้งไม่สำคัญ

เพราะระบบประชาธิปไตยกับการเลือกตั้งเป็นของคู่กัน แต่ต้องเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิยุติธรรม ดังนั้นถ้าทุกอย่างกลับไปสู่การเริ่มต้นด้วยความชอบธรรมและลงเอยด้วยความชอบธรรม ถ้ามาอย่างนี้ฝ่ายเลือกตั้งก็พูดได้เต็มปากว่ามาจากการเลือกตั้ง มาจากประชาชน แต่ถ้าซื้อมาถ้าจะอ้างก็ต้องบอกว่าเราซื้อมาจากประชาชน” นายชวน กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าระหว่างการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูฐ กับการแก้ไขปัญหา ด้วยการยุบสภา อย่างไหนดีกว่ากัน

 นายชวน กล่าวว่า ปัญหาทางการเมืองไม่เคยมีทางตัน แต่มีทางออกเสมอ แต่ทางออกนั้น ออกด้วยวิธีกระทบตัวเอง หรือกระทบอะไรหรือไม่ ถ้าเรากลัวกระทบตัวเอง ก็ไม่กล้าทำอะไรในสิ่งที่สถานภาพของตัวเองเปลี่ยนแปลงไป เช่น ยุบสภาก็ไม่แน่ใจว่าสถานะภาพของตัวเอง จะกลับมาอีกหรือไม่ หรือถ้าลาออกตัวเองก็พ้นไป เพราะฉะนั้นการตัดสินใจสำหรับการแก้ปัญหาจึงไม่มีทางตัน เพราะมีทางออก


ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรตั้งแต่รัฐบาลสมัครมาจนถึงรัฐบาลสมชายก็ไม่เคยพูดถึงการแก้ปัญหาปากท้องประชาชนมากกว่าปัญหาของตนเองเลย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกฯคงยุ่งเรื่องอื่น จนไม่รู้ว่าราคาสินค้าเกษตร เช่น ราคายาง ปาล์ม ข้าวโพด เป็นอย่างไร เรื่องนี้ประชาชนบ่นผ่าน ส.ส.กันมาก ว่าราคาผลิตผลมีปัญหาเกือบทุกตัว ความจริงอยากฟังรัฐบาลพูดเรื่องนี้บ้าง


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์