เลือกตั้งนอกประเทศยอดพุ่งกว่า8หมื่นคน

กระทรวงการต่างประเทศปลื้มตัวเลขผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรสูงเกือบ 8 หมื่นคน


"สิงคโปร์-แอลเอ-เทลอาวีฟ-เจดดาห์" ขอใช้สิทธิมากสุด ย้ำทุกเสียงมีส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตประเทศ
 

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวสรุปตัวเลขผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม-22 พฤศจิกายน 2550 ว่า ยอดผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร มีจำนวนทั้งหมด 79,186 ราย ซึ่งเมืองที่มีผู้ขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิมากใน 10 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ ลอสแองเจลิส เทลอาวีฟ เจดดาห์ แฟรงก์เฟิร์ต ฮ่องกง ไทเป คูเวต โดฮา และดูไบ 

 นายธฤต กล่าวว่า การลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิในครั้งนี้จัดทำขึ้นใหม่ เนื่องจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเดิมถูกยกเลิกไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 บัญชีรายชื่อใหม่ที่จัดทำขึ้นครั้งนี้มีจำนวนสูงขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับบัญชีที่จัดทำครั้งแรกในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในปี 2543 ซึ่งมีจำนวน 26,058 ราย แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวและสนใจที่จะขอใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้มากขึ้น




ส่วนบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอยู่ในปี 2549 จำนวน 144,028 ราย เป็นตัวเลขสะสมต่อเนื่องมาตั้งแต่การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร รวม 5 ครั้ง (ตั้งแต่ปี 2543-2549) และแทบไม่มีการถอนชื่อผู้ใดออกจากบัญชีเดิม จึงไม่ได้สะท้อนตัวเลขของผู้ที่ขอใช้สิทธิอย่างแท้จริง เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้สัดส่วนของผู้ไปลงคะแนนในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรครั้งที่ผ่านมาอยู่ในอัตราเฉลี่ยที่ต่ำ คือร้อยละ 35
 

       นายธฤต  กล่าวอีกว่า นอกจากสาเหตุจากบัญชีเดิมที่ไม่สะท้อนความเป็นจริงแล้ว ยังมีสาเหตุที่มีผู้ไปลงคะแนน จำนวนน้อยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้แก่  คนไทยในต่างประเทศยังมองว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องไกลตัว ไม่มีบรรยากาศของการหาเสียง ไม่มีสื่อในต่างประเทศที่ช่วยกระตุ้นให้ไปใช้สิทธิ ขาดความสะดวกในการไปใช้สิทธิ โดยเฉพาะแรงงาน ซึ่งต้องทำงานในวันอาทิตย์ด้วย หรือไม่อยากขาดเงินรายได้สำหรับการทำงานในวันหยุด


   นายธฤต กล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศรวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ได้เร่งเชิญชวนให้คนไทยในต่างประเทศไปลงทะเบียนใช้สิทธิ โดยสร้างความตื่นตัวในหมู่ชุมชนไทยผ่านการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ และพยายามชี้ให้เห็นว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของคนไทย ทุกเสียงมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศและการพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวเลขของผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิในปีนี้ นับว่าการประชาสัมพันธ์ของสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ และกระทรวงการต่างประเทศได้ผลดี


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์