บรรหารยันชท.พร้อมเลือกตั้ง 80% หวังภาคกลางเต็มที่

บรรหาร ระบุ ชท.พร้อมเลือกตั้ง 80% หวังภาคกลางเต็มที่


คาดอีสานสอดแทรกได้มากกว่าเดิม ส่วนพื้นที่กทม.ก็ส่ง ส่วน"ชูวิทย์" กำลังตัดสินใจ ย้ำยุทธศาสตร์ชท.ไม่สะเปะ สะปะ คาดระบบสัดส่วนทำยุ่ง ขายฝันคนกทม.ทำรถไฟฟ้าต่อได้แน่
 

(21กย.) นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ในจังหวัดขอนแก่นว่า

จากการเดินทางมาจังหวัดขอนแก่นครั้งนี้ตนยังไม่ได้ทำการปราศรัย เป็นการมาพบปะกับว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งเป็นแกนนำสำคัญๆ แต่ภายหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แล้วคงจะต้องเดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในจังหวัดขอนแก่นมีไม่กี่คน มีประมาณเขตละ 1 คน และมี 2-3 เขต มีเขตของนายสุเทพ ดีบุญมี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น และอาจจะมีเขต 2 นอกจากนายสุเทพแล้ว เขตอื่นในจังหวัดขอนแก่น พรรคชาติไทยได้กำหนดตัวว่าที่ผู้สมัคร แต่ยังไม่เปิดเผย ยังมีความแน่นอนเพียงแค่ 50-50 ความจริงพรรคชาติไทยจะส่งผู้สมัคร 3-4 เขต โดยเป็นคนใหม่


เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการวางตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายบรรหาร กล่าวว่า 80% ก็ไม่มาก คิดว่าไม่เกิน 250 เขต โดยเน้นหนักในส่วนของภาคกลาง


ผู้สื่อข่าวถามถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต ในพื้นที่ กทม. หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ในส่วนของ กทม.จะมีนายศิริโชค สิริวรรณภา น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ นางปวีณา หงษ์สกุล และลูกชาย และอาจจะมีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ ซึ่งในส่วนของกทม. อาจจะส่งไม่มากเท่าไหร่ แต่สำหรับจังหวัดชลบุรีส่งครบทั้ง 8 คน อย่างไรก็ตาม สำหรับยุทธศาสตร์ของพรรคชาติไทยตอนนี้เราไม่สะเปะสะปะ จะกำหนดเป็นจังหวัดๆ ไป นายบรรหาร กล่าวถึงการเลือกตั้งในระบบสัดส่วนว่า เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพราะมีปัญหาว่า คนที่จะลงบัญชีสัดส่วน เราจำเป็นจะต้องนำเขาไปปรากฏตัวด้วย เพราะประชาชนไม่รู้จักเขาก็ ไม่กาคะแนนให้ และตอนนี้ก็ยังไม่นิ่งว่าโซนไหนมีกี่จังหวัด ซึ่งทั้ง ส.ส.เขต และส.ส.แบบสัดส่วนก็ยังไม่นิ่ง แต่มีเวลาเหลืออีกเดือนกว่าๆ แล้วจะทำอย่างไร ตนอยากให้คนที่เขียนกฎหมายดังกล่าวมาลงพื้นที่กับตน จะได้รู้ปัญหา แล้วจะบอกว่ารู้อย่างนี้ไม่เขียนแบบนี้เสียก็ดี
 

เมื่อถามถึงนโยบายที่จะออกมาเฉพาะ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับคนอีสาน นายบรรหาร กล่าวว่า

พรรคจะออกนโยบายเฉพาะของแต่ละภาค แต่คงจะต้องรวบรวมปัญหาว่าคนภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ส่วนใหญ่ต้องการอะไร ก่อนที่จะนำไปเขียนเป็นรูปนโยบาย อย่างเช่น ขณะนี้ปัญหาเรื่องราคาพื้นไร่ไม่ค่อยมีการร้องเรียนเท่าไหร่ เพราะราคามันสำปะหลังขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาทกว่าๆ ข้าวเหนียวราคา 9,000 กว่าบาท ข้าวโพดราคา 8 บาทกว่าๆ คงไม่มีปัญหา เพราะตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูง
 

“ปัญหาของประเทศมีเยอะ ผมเป็นห่วงมากเลย เรื่องการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเศรษฐกิจถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องเดินหน้าอย่างเต็มที่ มีงบประมาณเท่าไหร่ก็ต้องลงไปในจุดต่างๆ ด้วยความรวดเร็วและฉับพลัน การทำงานก็ต้องรวดเร็วด้วย” นายบรรหารกล่าว


หัวหน้าพรรคชาติไทย ยังกล่าวว่า หากพรรคชาติไทยได้เป็นรัฐบาล หลายเรื่องจะลงไปทันที


อย่างรถไฟฟ้า 3 สาย รับรอง 3 เดือนเสร็จ คนกรุงเทพฯ จะได้ใช้ทันที ทั้งรถไฟฟ้าอุโมงค์ รถราง รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนรถเดินบริษัทเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดิน ตอนนี้ตนไม่ทราบว่ารูปแบบเขาทำอย่างไร แต่เทิร์นคีย์ทั้งหมดตนตอบไม่ได้ แต่ทราบว่า รัฐบาลกำลังจะกู้เงินต่างประเทศ ถ้ากู้จะกู้ทั้งหมดหรือไม่ หรือกู้บางส่วนมาต่ออุโมงค์ ส่วนรถบนดินก็ทำตอม่อ วางรางเสร็จ เอกชนหารถมาวิ่งทั้งบนดินและใต้ดิน ตรงนี้เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง หรือจะใช้ระบบเทิร์นคีย์ แต่ระบบนี้พิจารณายาก เพราะผู้ที่จะทำระบบเทิร์นคีย์ ผู้ที่จะมาลงทุนเขาต้องคิดอัตราการลงทุนที่สูง รวมถึงดอกเบี้ยฉะนั้นด้วย ฉะนั้น ค่ารถจะแพง แต่หากรัฐลงทุนส่วนหนึ่งก็จะถูกลง
 

นายบรรหาร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม คิดว่าต้องวางผังเมืองอย่างเต็มที่

เพราะขณะนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน บ้านจัดสรรเยอะแยะ เป็นชุมชนแห่งหนึ่ง ทำให้เกิดความแออัด เดินทางไม่สะดวก ฉะนั้น ตนอยากให้เราทำเหมือนต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งที่พักเขาจะอยู่ห่างกับที่ทำงานเกือบ 100 กิโลเมตร เขาจะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปทำงาน ตรงนี้เป็นวินัยของเขา ซึ่งเราน่าจะมีรถไฟที่มีความเร็วพอสมควร โดยขยายไปยังจังหวัดลพบุรี อยุธยา หัวหิน เดินทางถึงภายในครึ่งชั่วโมง และรถไฮสปีด เทรน น่าจะมีจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ไปหาดใหญ่ ซึ่งวันนี้เวียดนาม เกาหลี ก็ทำแล้ว และจะเสร็จก่อนเราด้วย ทั้งๆ ที่เขาล้าหลังกว่าเรา


“ต้องเห็นใจรัฐบาล เพราะมาจากข้าราชการทั้งนั้น ไม่กล้าทำอะไรที่ผูกพัน” นายบรรหาร กล่าวพร้อมฝากคำแนะนำถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า อีก 3 เดือนที่จะหมดวาระ รัฐบาลจะต้องทำงาน เรื่องอะไรเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านต้องเอาเข้า อนุมัติไปทันที อย่าไปบอกว่าเป็นรัฐบาลรักษาการณ์ทำอะไรไม่ได้ ใช้ไม่ได้ เพราะเห็นรัฐมนตรีบางคนพูดว่า จะไม่เสนออะไรเข้าไปในที่ประชุม ครม.แล้ว อย่างนี้ไม่ได้ ต้องทำไปจนหมดวาระ ไม่เสียหาย ไม่มีใครต่อว่า นายกฯ ต้องเดินหน้าต่อไป กฎหมายต่างๆ โครงการต่างๆ ต้องเดินหน้าต่อไปทั้งหมด จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง หรือหลังวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ก็โอ.เค. หยุดได้แล้ว
 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่า การจะดำเนินการในส่วนของรถไฟฟ้า รถราง จะรอให้ดอกเบี้ยต่ำลงอีกสักนิด นายบรรหาร กล่าวว่า

ไม่ต้องรอ รอก็ไม่ทันการณ์ ถ้าไปรออัตราดอกเบี้ยแล้วมันไม่ลดจะทำอย่างไร และหากมันยิ่งสูงขึ้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ตนคิดว่าไม่ควรรอ เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่มีบทบาทในการนำทัพเลือกตั้งแล้ว ในส่วนของพื้นที่ภาคอีสาน พรรคชาติไทยคิดว่าจะมีโอกาสมากขึ้นหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า คงจะมีสอดแทรกได้บ้าง คงจะมากกว่าเดิม แต่คงไม่มากเท่าไหร่ ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะบังเอิญว่าฐานเสียงของพรรคชาติไทยในพื้นที่ภาคอีสานถูกดึงไปพรรคอื่นเยอะ เช่น ถูกดึงไปพรรคประชาราชก็มี รวมถึงพรรคพลังประชาชนก็มี ผู้แทนภาคอีสานจากพรรคชาติไทย ที่ไหลไปมากเช่นกัน


ต่อข่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ฝนจะตกหนักอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ไม่รู้ ตอบไม่ได้ แต่ไม่น่าจะหนัก เพราะถ้าหนักก็เจอใบเหลือง ใบแดง คงไม่น่าจะหนัก เพราะวันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็วางตัวเป็นกลางแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนนี้ คิดว่าคงไม่หนัก แต่ก็ยังน่ากลัว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์