มือปาขี้ใส่บ้าน′มาร์ค′โผล่ศูนย์บริการปชช. ขู่ ′บิ๊กตู่′ระวังโดนบ้าง!

มือปาขี้ใส่บ้าน′มาร์ค′โผล่ศูนย์บริการปชช. ขู่ ′บิ๊กตู่′ระวังโดนบ้าง!

มือปาขี้ใส่บ้าน′มาร์ค′โผล่ศูนย์บริการปชช. ขู่ ′บิ๊กตู่′ระวังโดนบ้าง!

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 5 มกราคม ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาลอยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีชายวัยกลางคน ทราบชื่อภายหลังว่า นายวิวิทวิน เตียวสวัสดิ์ อายุ 48 ปี พ่อค้าเนื้อหมูย่านลาดพร้าว อดีตผู้ต้องหาคดีปาอุจจาระ ใส่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในซอยสุขุมวิท 31 ได้มาโวยวายสร้างความปั่นป่วนที่บริเวณศูนย์บริการประชาชน  เมื่อทางเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามว่าจะมาร้องเรียนอะไร นายวิวิทวินก็ไม่ยอมบอก เพียงแต่พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย ไม่รู้กี่รัฐบาลแล้ว เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน”

ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามอีกหลายครั้งที่จะเข้าไปพูดคุยและขอให้เข้ามายื่นเรื่องตามขั้นตอนจะได้ทราบถึงปัญหาความเดือดร้อน 

แต่นายวิวิทวินก็ยังคงโวยวายเช่นเดิม และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาจึงได้เดินหนีออกมาแต่ยังตะโกนเสียงดังทิ้งท้ายฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยว่า “ผมเคยปาขี้ใส่บ้านนายกฯอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) มาแล้ว วันนี้ปัญหาของผมยังไม่ได้รับการแก้ไขตามที่เจ้าหน้าที่รับปากและเคยบอกมา เมื่อวันนี้ปัญหาของผมไม่ได้รับการแก้ไข เพราะอย่างนั้นผมบอกได้เลยว่าผมจะปาใส่คุณประยุทธ์ หลังจากนี้ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมตัวเจอกับผมได้เลย”         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิวิทวินเคยก่อเหตุปาถุงอุจจาระใส่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มาครั้งหนึ่งแล้ว

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2553 โดยอ้างว่าไม่พอใจเป็นการส่วนตัวที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเคยเข้าร้องเรียนกับตำรวจ สน.ลาดพร้าว ให้ดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่ากับเพื่อนบ้านที่ชอบมั่วสุมสูบบุหรี่ ทำให้ควันบุหรี่ลอยมาถึงบ้านจนทำให้ลูกสาวคนโตเกิดอาการป่วยเกี่ยวกับระบบหายใจต้องล้มป่วยบ่อยครั้ง 

นอกจากนี้ ควันบุหรี่ยังรบกวนลูกคนเล็กด้วย ซึ่งศาลแขวงพระนครใต้

 ได้พิเคราะห์และดำเนินการฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ และฐานกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 389, 397 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าไม่พอใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาจำคุก 5 วัน  เนื่องจากจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงให้เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นกักขังแทน 5 วัน 

ขอบคุณที่มาจาก MATICHON

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์