ภาพจาก มติชนเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและมีการเดินขบวนไปตามจุดต่างๆ 13 แห่งว่า สถานการณ์เหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า มีกลุ่มผู้ชุมนุมไปชุมนุมตามจุดต่างๆ 13 จุด ตามที่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนไปแล้วนั้น ปรากฏเหตุการณ์ ดังนี้
1.กรณีที่บริเวณแยก พล.1 นายชุมพล จุลศัย นำกลุ่มผู้ชุมนุมมาที่บริเวณดังกล่าว และเกิดเหตุผู้ชุมนุมได้รุมทำร้ายผู้สื่อข่าวชาวเยอรมัน ชื่อนายนิค นอตสติชซ์( Mr.Nick Nastitz ) โดยขณะได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล และจะได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนต่อไป
2.กรณีที่บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร มีกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ( คปท. ) ที่นำโดยนายอุทัย ยอดมณี และนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่นำกลุ่มผู้ชุมนุมกลับจากกระทรวงการต่างประเทศ และได้เดินทางมาที่บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร และกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าปะทะแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวน 2 คน ได้ฝ่าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาและได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ ชื่อ นายกำแพง ชาตรีชวาลกรรม อายุ 41 ปีและ นายวิวรรธ์ บุนนาค อายุ 40 ปี และจะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า 3.กรณีที่สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปที่กระทรวงการคลัง และได้ยึดกระทรวงการคลังไว้ ซึ่งขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล กำลังดำเนินการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไป เพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว บช.น.ขอแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า การชุมนุมนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญก็จริง แต่จะต้องกระทำโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งการกระทำโดยไม่สงบและเข้าไปบุกรุกสถานที่ราชการนั้น ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงขอวิงวอนให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้โปรดงดเว้นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพื่อความสงบต่อส่วนรวม
“สำหรับผู้บุกรุกไปในพื้นที่หวงห้าม ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2511 นั้น มาตรา 18 ห้ามเข้าหรือออก อาคารสถานที่ ที่กำหนดไว้ ยกเว้นเป็นเจ้าพนักงานที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งตามกฎหมาย มาตรา 24 กำหนดบทลงโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผู้ชุมนุม 2 คนที่ถูกจับกุมมีความผิดส่วนนี้ ส่วนการบุกรุกสถานที่ราชการนั้น ก็ถือว่ามีความผิด ขอเตือนว่าอย่าละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยด้านการจราจรพล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. ก็จะไปตรวจการจราจรทางอากาศเพื่อหาจุดในการคลี่คลายปัญหา หลังกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศชุมนุมใหญ่ 3 วัน คือ วันนี้ วันพรุ่งนี้ และวันมะรืนนี้” โฆษก บช.น.กล่าว
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า สำหรับ 13 จุด ที่ผู้ชุมนุมเดินทางไปนั้น บางส่วนได้มีการกลับไปที่ตั้งที่ถนนราชดำเนิน เหลือตรงแยก พล.1 ใกล้ บช.น. ช่อง 3 และสำนักงบประมาณ โดยกรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ใกล้เคียงกันก็ถูกบุกยึดไปด้วย ส่วนกลุ่มแกนนำที่มีการนำกลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุก ทั้งนายนิติธร และนายอุทัย ถือว่ามีความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้ว เพราะพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ โดยฝ่ายกฎหมายของ ศอ.รส.ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำที่ไปบุกสำนักงบประมาณนั้น ถือว่ามีความผิดหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ โดยนายสุเทพอาจเข้าข่ายความผิดฐานกบฏ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนการบุกสถานที่ราชการมีความผิด โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถามว่าสถานการณ์กลุ่มม็อบบางจุดอาจมีการยืดเยื้อ พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาที่แยก พล.1 พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ก็ไปเจรจาพูดคุยรับดอกไม้และนกหวีดมาแล้ว แต่ทางผู้ชุมนุมก็ยังไม่พอใจ ซึ่งตนก็จะไปเจรจาพูดคุยอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้สถานการณ์เกิดความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อาจจะรวมตัวกันเคลื่อนพลมาที่แยกพล.1 ใกล้ บช.น. เพื่อมากดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจในจุดนี้ต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
