แฉสงครามแฮกเกอร์ไทย ต้นเหตุป่วนเว็บทำเนียบ

แฉสงครามแฮกเกอร์ไทย ต้นเหตุป่วนเว็บทำเนียบ

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
 
กล่าวถึงความคืบหน้า ในการตามล่า แฮกเกอร์มือฉมัง ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนโพสต์ข้อความหยาบคายโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ทางตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ามาแจ้งดำเนินคดีที่ ปอท.แล้ว ซึ่งหลังรับแจ้งได้ร่วมกับ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ในการตรวจสอบหาหลักฐาน ร่องรอยของการแฮกเว็บไซ์ดังกล่าว ขณะนี้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว เบื้องต้นมีเพียง 1 ราย อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวนอยู่ โดยแฮกเกอร์รายนี้ มีความสามารถในการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับสูง ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย แถมเคยเข้าแฮกตามเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการและเอกชนมาแล้วมากมาย อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3  เป็นต้น


“นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากกำชับว่า หากสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ให้สืบสวนด้วยว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับที่เคยโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทจนเกิดความเสียหายก่อนหน้านี้หรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่าผิดจริงจะถูกแจ้งข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 16 มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี และปรับ ไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ”

ต่อมา พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ขณะนี้ทาง บก.ปอท. มีหลักฐานแล้วว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ทำการเจาะระบบข้อมูลนั้นมาจากประเทศเยอรมัน ซึ่งกำลังประสานขอข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเยอรมันอยู่ ขณะเดียวกันยังได้รับการติดต่อจากหัวหน้ากลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ ยูเอชที ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จะเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในวันที่ 10 พ.ค. เวลา 10.00 น.โดยคาดว่าอาจจะเป็นคนเดียวกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี อ้างถึงเป็นชาวนครศรีธรรมราช เรียนจบมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่ง อายุ 29 ปี


รายงานข่าวระบุว่า การแฮกเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรีครั้งนี้

เกิดจากสงครามแฮกเกอร์ 2 กลุ่ม ระหว่าง ยูเอชที กับสเต็ปแฮก ก่อนหน้านี้เคยเป็นกลุ่มเดียวกันและเกิดแตกแยก จนกระทั่งมีการแฮกเว็บไซต์ดังกล่าวและต่างฝ่ายต่างอ้างว่า อีกฝ่ายแฮกและพยายามโยนความผิดให้อีกฝ่าย ทั้งนี้กลุ่มยูเอชทีให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ตัวเอง


ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
 
เปิดเผยถึงความคืบหน้าติดตามผู้ต้องหาที่แฮกเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ในขณะนี้ได้เบาะแสของผู้กระทำความผิดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากอาจส่งผลต่อรูปคดี จึงขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน โดยจะเร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอุกอาจมาก และเป็นคดีอาญาการจับกุมต้องมีความรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบต้องสิทธิผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหา

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับวิธีการที่แฮกเกอร์ใช้ในการแฮกเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น หลังจากได้รวบรวมพยานหลักฐานทางดิจิทัล เบื้องต้นแฮกเกอร์ได้ใช้วิธีการทำ SQL Injection ที่เป็นรูปแบบของการลักลอบเข้าไปเจาะเข้าฐานข้อมูลระบบและเปลี่ยนชุดคำสั่ง เพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าของเว็บไซต์ แล้วเมื่อดึงฐานข้อมูลจึงเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์